ปีที่ฉาย : 2022

เสียง : พากย์ไทย

6.8/10 เวลาฉาย : 108 HD

ดูหนัง 2022 ดูหนัง Action บู๊ ดูหนัง Biography ชีวิตจริง ดูหนัง History ประวัติศาสตร์ ดูหนัง NETFLIX ดูหนัง War สงคราม ดูหนัง หนังฝรั่ง

DOOMOVIE ดูหนังออนไลน์ Narvik (2022)

DOOMOVIE ดูหนังออนไลน์ Narvik (2022) นาร์วิค หลังจากฮิตเลอร์พ่ายแพ้เป็นครั้งแรกในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารชาวนอร์เวย์นายหนึ่งเดินทางกลับบ้านและได้ค้นพบความจริงที่น่าตกตะลึงเกี่ยวกับภรรยาตัวเอง หนังสงครามโลกครั้งที่ 2 จากความสามารถงานสร้างฝั่งยุโรปกำลังเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความพอใจ อีกเรื่องหนึ่งที่พึ่งพรีเมียร์ฉายทั่วทั้งโลกมาปัจจุบันก็คือ “Narvik” หนังประเทศนอร์เวย์ที่ถือเอาหนึ่งในเหตุทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมาขึ้นหน้าจอ ออกมาเป็นหนังสงครามดราม่าเชิงกลยุทธ์การทำศึกที่คล้ายกับการผนึกกำลังกันช่วยเป็นอิสระพื้นที่ เปลี่ยนเป็นหนึ่งความกล้าหาญเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ในการรบคราวนี้

Narvik เล่าราวเหตุการทำสงครามในเมืองท้องนาร์วิค ทางภาคเหนือของประเทศนอร์เวย์ ในม.ย. 1940

ระยะเวลาเพียงแค่ความเข้มข้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศที่บากบั่นตั้งตนเป็นกลางในการศึกความไม่ลงรอยกันคราวนี้ แม้กระนั้นเมืองกลายเป็นเป้าสายตาเพราะว่าเป็นหลักที่ที่กองกำลังฮิตเลอร์ใช้แร่เหล็กนำไปสร้างเป็นอาวุธ เพศหญิงหนึ่งคนกับการต่อสู้ตลอดเวลาสองเดือนของพวกเขาท่ามกลางความเย็นเยือก จุดประกายให้ฮิตเลอร์ได้ชิมรสความแพ้พ่ายเป็นครั้งแรก

นี่เป็นผลงานการดูแลของ “เอริค เซียลด์เบิร์ก” จากหนังดังในสมัย 90s อย่าง Insomnia ที่เป็นงานแจ้งกำเนิดให้กับเขา ถึงแม้ว่าพวกเราบางทีก็อาจจะมิได้ติดตามมองผลงานของเขารวมทั้งหนังประเทศนอร์เวย์เสมอๆสักเท่าไหร่ แต่งานสร้างในหนัง Norvik หัวข้อนี้นับว่าใช้ได้ตามมาตรฐานของหนังชาตินี้ มุมภาพรวมทั้งมุมกล้องถ่ายรูปต่างๆบางทีอาจจะมิได้หวือหวาอะไร แต่ว่าการร้อยเรียงเล่าราวของหนังนั้นก็นับว่าน่าพึงพอใจอย่างดีเยี่ยม

บทหนังแล้วก็การลำดับเรื่องราวในหนังประเด็นนี้มิได้มีอะไรเป็นพิเศษเท่าใด ดูท่าหนังจะเล่าไปตามไทม์ไลน์เรื่อยแบบไม่สลับซับซ้อน แผนการสร้างภาพยนตร์มิได้มีความสลับซับซ้อนอะไร อาจจะค่อนข้างจะผิวเผินไปด้วย แม้กระนั้นยังดีที่ความทรงประสิทธิภาพในเรื่องราวของหนังยังเป็นปีกที่กล้าแกร่งให้กับหนังประเด็นนี้ ทั้งยังยังดีที่หนังหัวข้อนี้เล่าได้ออกจะกระช้บ ไม่ยืดเยือเกินเหตุ เป็นหนังที่มีช่วงเวลาเพียงแค่ชั่วโมงเศษๆพอเพียงต่อการไล่เรียงลำดับเรื่องได้อย่างประจวบเหมาะก็ดี

ถึงแม้งานวิธีพิเศษรวมทั้งการใส่ซีจีของหนังหัวข้อนี้บางทีอาจจะยังไม่แนบเนียนสักเท่าไหร่ แต่ว่าก็ไม่ถึงกับกระโดดกระดอนขึ้นมาจนถึงน่ารังเกียจอะไร ยังอยู่ในระดับที่เพียงพอระดับได้ มิได้ทำให้เสียอรรถรสสำหรับการรับดูเยอะแค่ไหน ที่แท้ก็คล้ายกับการนั่งดูหนังเชิงสารคดีการทำศึกอะไรทำนองนั้น เสริมแก่นความสนุกสนานเข้าไปพอสมควร แม้กระนั้นเน้นย้ำไทม์ไลน์ที่อิงกับข้อพิสูจน์และก็บันทึกทางประวัติศาสตร์เข้ามาเสริม คนใดที่ประทับใจหนังแนวสงครามโลกรูปแบบนี้ คงจะมองได้เพลิดเพลินๆกับหนังประเด็นนี้

ด้วยเหตุว่าไม่เคยได้ได้โอกาสมองผลงานการแสดงเรื่องก่อนๆของกลุ่มดาราหนังหนังประเด็นนี้ แต่ว่าก็สัมผัสได้ว่าการแสดงของพวกเขาทำออกมาก้าวหน้าตามเกณฑ์ โดยยิ่งไปกว่านั้น “คริสว่ากล่าวน ฮาร์ตเกน” ที่นับว่ามารับบทนำในหนังเรื่องแรก การแสดงของคุณก็เป็นเยี่ยมในส่วนประกอบที่ช่วยประคองหนังเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ในช่วงเวลาที่ “คาร์ล มาร์ติน เอกเกสเบ” การเป็นอีกผู้ที่มาช่วยแบกรับหนังเอาไว้อีกแรงเจริญด้วยเหมือนกัน

สรุปแล้วนั้น Narvik จัดได้ว่าเป็นหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกหนึ่งมุมมองที่มาจากฝั่งประเทศนอร์เวย์ รายละเอียดเชิงการสู้รบบางครั้งอาจจะมิได้เข้มข้นสักเท่าไหร่นัก แต่ว่าก็เป็นหนังการรบทางด้านทหารที่ร้อยเรียงเรื่องราวไปแบบง่ายๆไม่มีอะไรสลับซับซ้อนที่ทำออกมาได้ถูกใจดี คนชอบดูหนังการศึกและก็ถูกใจเกร็ดประวัติศาสตร์เชิงการรบก็คงจะถูกใจหนังหัวข้อนี้กับไทม์ไลน์ที่มองได้เพลิดเพลินๆงานสร้างมิได้ยิ่งใหญ่ แม้กระนั้นก็ยังมีเรื่องมีราวราวที่ทรงประสิทธิภาพมาช่วยประคองตัวหนังเอาไว้ได้ออกจะสนุกสนานดีในระดับหนึ่ง

• รีวิว Kampen om Narvik : อีกมุมหนึ่งในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยังไม่เคยถูกเล่า

นับถึงวันนี้ สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ผ่านมาเกือบจะ 80 ปีแล้ว แต่ว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วทั้งโลกก็ยังคงสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ออกมาเนืองๆเพียงแค่เฉพาะฮอลลีวูดก็สร้างออกมาเกือบจะ 200 เรื่องแล้ว โน่นก็เลยเป็นเหตุผลว่าพวกเราเอาแต่ได้ดูหนังที่ถูกเล่าจากมุมมองของฝั่งสหรัฐอเมริกา หลายครั้งสุด รองลงมาก็หนังจากฝั่งยุโรป จีน และก็ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็ล้วนเล่ามุมมองจากฝ่ายสัมพันธมิตร รวมทั้งฝ่ายอักษะ แต่ว่าสำหรับประเด็นนี้ ถือได้ว่าเป็นประเด็นแปลกใหม่ของหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะเหตุว่าถูกเล่าจากมุมมองของประเทศเป็นกลางอย่างประเทศนอร์เวย์

เหมือนกันกับหนังประวัติศาสตร์ทั่วๆไป ที่ชอบเปิดเรื่องด้วยคำพรรณนา นำเสนอให้ผู้ชมรู้จักจุดสำคัญของ “ที่นาร์วิค” เมืองเล็กๆทางทางเหนือของประเทศนอร์เวย์ที่เปลี่ยนเป็นสนามรบรบกันระหว่างอังกฤษและก็เยอรมันในเมษายน จนกระทั่ง เดือนมิถุนายน ปี 1940 ซึ่งเป็นตอนๆเริ่มของสงครามโลกครั้งที่ 2 เหตุเพราะที่นาร์วิคมีเหมืองเหล็กที่กำลังในการผลิตสูงมากมาย แล้วก็เป็นธาตุสำคัญที่เยอรมันอยากได้นำไปสร้างอาวุธแล้วก็ยานพาหนะที่ใช้เพื่อการศึก ทำให้อังกฤษอยากครอบครองเพื่อตัดเส้นทางแร่เหล็กของเยอรมัน แม้กระนั้นนี่เป็นหนังที่มุ่งสร้างความรื่นเริงใจไม่ใช่เล่าประวัติศาสตร์ นักเขียนก็เลยจะต้องสร้างฐานะละครหลักขึ้นมาเป็นตัวดำเนินเรื่องบนเบื้องหลังที่เป็นเรื่องราวจริง ลักษณะเดียวกันกับ Titanic โน่นละ

ถึงแม้ Kampen om Narvik จะเป็นหนังประเทศนอร์เวย์ แต่ว่าก็จำต้องพบเจอกับกรรมหนักของวัววิด-19 เหมือนกัน ด้วยเหตุว่าหนังก็จำต้องพักกองไปในตอนที่วัววิด-19 ระบาดหนัก พอกลับมาถ่ายทำเสร็จ กำเนิดการรบยูเครน-รัสเซีย เอาหนังออกฉายไมได้อีก เนื่องจากว่าชาวยุโรปกำลังเคร่งเคลียดกับบรรยากาศการรบที่ร้อนรุ่ม ก็จะต้องให้เหตุการณ์คลี่คลายลงหน่อยค่อยออกฉาย หนังก็เลยเอาเข้าโรงฉายในประเทศนอร์เวย์เมื่อเดือนธันวาคม 2022 แล้วขายให้กับ Netflix มาฉายในม.ค. 2023 รวมทั้งน่าทึ่งที่ว่าหนังประเทศนอร์เวย์ ที่ไม่มีชื่อขายเลยทั้งยังดาราแล้วก็ผู้กำกับ แม้กระนั้นหนังก็สามารถขึ้นชั้น 1 ในชาร์ต Netflix บ้านพวกเราได้แม้ว่าจะเป็นตอนสั้นๆก็ตาม

ผู้แสดงหลักใน หมายถึงกุนที่นาร์ ทอฟเตอร์ ที่ถูกหลักเกณฑ์ไปร่วมกับกองทัพประเทศนอร์เวย์ หากแม้ประเทศจะประกาศตนเป็นกลาง แต่ว่ากองทัพก็ประสานมือกับอังกฤษและก็ประเทศฝรั่งเศส ที่สมัครใจมาไล่ส่งเยอรมันออกมาจากประเทศนอร์เวย์ หนังเปิดเรื่องในตอนที่อังกฤษส่งทหารมา 2 นาย เพื่อตรวจพื้นที่ก่อนส่งกองทัพมาขับไสทหารเยอรมัน แต่ว่าเข้ามาได้ไม่นานเยอรมันก็ยกพลเข้ามา รวมทั้งใช้บังกะโลรอยัลในท้องนาร์วิคเป็นหลักที่สั่งชั่วครั้งคราว ซึ่ง อิงกริด ทอฟเตอร์ เมียของกุนท้องนาร์ดำเนินการอยู่ตรงนี้ ด้วยสาเหตุอันเกิดจากที่คุณบอกภาษาเยอรมันได้ ก็เลยเปลี่ยนเป็นล่ามไปโดยปริยาย ช่วงเวลาเดียวกันคุณก็คือคนที่นำตัวทหารอังกฤษไปแอบไว้และก็รอแจ้งข่าวการเคลื่อนที่ของทางข้างเยอรมันให้ทางอังกฤษรับรู้

ด้านหน่วยรบของกุนที่นาร์ก็เสียทีให้กับกองทัพเยอรมัน กุนท้องนาร์ถูกจับตัวไปเป็นเชลยสงคราม แปลงเป็นเรื่องราวดราม่าชีวิตรันทดท่ามกลางสนามรบ ให้ผู้ชมรอลุ้นเอาใจช่วยกันว่าเรื่องราวจะจบแบบสุขหรือสลด ท้ายที่สุดบิดามารดาลูกจะได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาหรือเปล่า หรือผู้ใดกันแน่จำต้องจากไปในช่วงวิกฤตแบบนี้ ด้วยเหตุว่าเหตุการณ์อีกทั้งทางฝั่งกุนที่นาร์รวมทั้งอิงกริดต่างก็เสี่ยงเท่าเทียมกัน

• จุดเด่นของหนังก็คือเล่าจบในเวลาเหมาะสมพอเพียงสม 1 ชั่วโมง 48 นาที

ปูความไม่นานท้องนาร์วิคก็ตกอยู่ในวิกฤติการณ์แล้ว หนังตัดสลับไปๆมาๆระหว่างกุนที่นาร์ที่อยู่ในสนามรบ รวมทั้งทางฝั่งอิงกริดที่จะต้องปฏิบัติภารกิจสายจำเป็นจะต้อง มีฉากให้ลุ้นไปกับกระทำการณ์ของคุณอยู่เนืองๆและก็ฉากที่เคร่งเคลียดที่สุดของเรื่องก็คือเรื่องราวทางฝั่งของคุณ ที่คุณจะต้องตกลงใจเลือก ระหว่างชีวิตลูกชายกับอนาคตของทุ่งนาร์วิค

หากแม้ จะเป็นหนังสงคราม แต่ว่าอีกทั้งเรื่องก็มีฉากรบให้ได้มองเห็นเพียงแค่ไม่กี่นาทีเพียงแค่นั้น ก็เลยเปลี่ยนเป็นจุดเด่นอีกอย่างซึ่งสามารถเปิดมองไประหว่างรับประทานข้าวได้ หนังมีเลือดให้มองเห็นน้อยมาก ไม่มีฉากชั่วร้าย ฉากแหวะ เพราะเหตุว่าหนังได้เรต 13+แล้วก็เป็นหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 น้อยเรื่องนัก ที่ไม่สร้างภาพให้เยอรมันเป็นปีศาจร้ายกระทั่งเกินความจำเป็น กล่าวได้เลยว่าทหารเยอรมันในหัวข้อนี้มองเป็นผู้เป็นคนมีมนุษยธรรมที่สุดที่เคยมองมา

• ข้อเสียของหนังก็คือ การจะต้องใช้สมาธิสูงสำหรับในการรับดู

เพราะว่ามีทหารหลายข้างมากมาย แล้วทั้งยังชุดแต่งกายรวมทั้งภาษาพูดก็ฟังมองคล้ายกันเสียด้วย เพียงพอพวกเราเพียรพยายามจับเอกลัษณ์ของชุดแต่งกายได้ว่านี่เป็นทหารประเทศนอร์เวย์ นี่เป็นทหารเยอรมัน นี่เป็นทหารอังกฤษ ก็ดันมีทหารประเทศฝรั่งเศสเพิ่มมาอีก Kampen om Narvik เป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างไม่สูงนัก เพียงแค่ 8 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ก็เลยมิได้มองเห็นฉากรบแบบระเบิดระเบ้อนัก ระเบิดแต่ละครั้งก็ใช้ภาพมุมกว้างมองเห็นระเบิดไกลๆอีกทั้งเรื่องยังมองเห็นทหารไม่ถึงร้อยคนเลย แต่ว่าผู้ผลิตเองก็ทราบข้อกำหนดในส่วนนี้ดี ก็เลยมิได้เน้นย้ำขายฉากรบ แต่ว่าไปย้ำประเด็นการอุตสาหะเอาชีวิตรอดของอีกทั้งกุนทุ่งนาร์และก็อิงกริด โดยเป็นอิสระของชาวประเทศนอร์เวย์เป็นพนัน

หนังสำเร็จงานของ อีริค โชลจาร์ก (Erik Skjoldbjærg) ผู้กำกับมือเก๋าของประเทศนอร์เวย์ เคยเป็นเจ้าของผลงาน Insomnia (1997) ที่ถูกฮอลลีวูดรีเมกเมื่อปี 2002 แล้วโชลจาร์กยังเป็นมือเขียนบทภาพยนตร์ด้วย ซึ่งประเด็นนี้เขาก็ควบหน้าที่เขียนบทร่วมด้วย ก็ถือว่าไม่เสียชื่อเสียงมือเขียนบทรุ่นเก๋า ดำเนินเรื่องได้เร็วน่าติดตาม ประสานรายละเอียดดราม่าและก็ประวัติศาสตร์ได้กลมกลืน ดูแล้วได้ทั้งยังความเบิกบานใจและก็ได้รับทราบประเด็นใหม่ๆในประวัติศาสตร์ มิได้ประจบสอพลอว่าข้างไหนดีเลิศหรือเขียนให้ข้างไหนชั่วร้าย ส่วนท้ายหนังก็เล่าด้วยภาพนิ่งสั้นๆว่า สุดท้ายทั้งยังเยอรมัน อังกฤษ ประเทศฝรั่งเศส ต่างก็เอาชีวิตรอดแล้วไปกันทั้งหมด แล้วท้องนาร์วิคก็แปลงเป็นเมืองที่จะต้องรับเคราะห์บาปจากการที่ประเทศพวกนี้มาตีกัน

On April 8, 1940, a group of Norwegian soldiers arrive at by ship. One of them, Corporal Gunnar Tofte is given permission to go home to see his son Ole on his birthday. He meets his wife Ingrid, who is a waitress at the town’s hotel, during a meeting between German and British representatives to discuss working relations between the warring states, who both need the iron ore mined in Kiruna and Gällivare, Sweden and brought to this Norwegian town by the ore railway for export.

After spending the night with his family, Gunnar awakes before dawn as Germans soldiers land in Narvik. After a brief standoff, the Norwegian commander orders his troops to withdraw. They march out to a railroad bridge in the mountains, which their new commander intends to dynamite to prevent its use by the Germans. After phoning his father Aslak on the dynamite’s whereabouts, Gunnar is told that his wife and child are on a train heading towards the bridge. Shortly afterwards, a group of civilians, including Ingrid and Ole, appear and cross just as German soldiers arrive. A firefight ensues and the bridge is blown up. Gunnar is captured, while Ingrid and Ole, who decided to watch, are taken back to town.

The Germans take over the hotel, enlist Ingrid as a translator since she speaks German and search for the British consul, Ross, whom Ingrid hides in a mountain cabin. The German consul Fritz Wussow asks Ingrid to assist him in negotiations with the hostile mayor Theodor Broch. Ingrid in turn asks Wussow to help get Gunnar released. After Ross calls on Ingrid to visit, he convinces her to steal military plans from Wussow by indirectly threatening her. While Ingrid is at the hotel, the British navy enters the harbor and starts firing on the German destroyers there, sending Ingrid, Ole, Aslak and other civilians to hide in a basement. After the engagement, all German destroyers are sunk, but no British soldiers have landed. In the chaos, Ingrid manages to steal a map of German artillery emplacements in town and then gives it to Ross, who sends the information to the British warships. As she returns, the British start bombarding the town, killing Aslak and injuring Ole when a shell lands on their house.

Four weeks later, the Germans have fortified the area around Narvik.

In the mountains, Gunnar and other POWs are forced to move supplies for the Germans when they are attacked by French and Norwegian soldiers. Gunnar is rescued and returns to combat, intent on returning to after being told of his father’s death. While hiding in a bunker, Ole suffers an infection from his prior injury as Ingrid braves shellfire to bring him to the hotel and betrays Ross’ whereabouts to Wussow in exchange for Ole receiving medical treatment, after which the German doctor removes a piece of shrapnel near his lung.

Two weeks later, Allied forces enter Narvik. Gunnar and others overcome the German defenses and destroy a large artillery piece firing at the British warships. As the Germans prepare to withdraw, Wussow asks Ingrid to accompany him to Berlin but she declines. He then incorrectly tells her that Gunnar was killed. After taking advice from her boss Polly, who warns her that her collaboration with the Germans is known in the town, Ingrid decides to leave with Ole.

Gunnar and other soldiers return to cheering crowds but is told that his wife was a collaborator. Upon returning to his damaged house, he is reunited with Ingrid and Ole. Ingrid explains her actions to Gunnar, who angrily calls her a traitor as German planes bomb Narvik. Gunnar rushes out into the street to see a comrade getting killed. While hearing their commander call for resistance, Gunnar watches Ingrid and Ole leave. They board a fishing boat with other civilians who scorn them for her collaboration before they are joined by Gunnar and escape before the Germans recapture the city.

ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ หนังสงคราม HD ฟรี เรื่อง Narvik (2022) นาร์วิค หนังประเภท War สงคราม หนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ หนังชนโรง หนังใหม่ หนัง2024 หนังอัพเดทใหม่ทุกวัน DooMovie ดูหนังฟรีระดับโรงภาพยนตร์ เชิญรับชมหนังภาพยนตร์ เรื่องนี้ได้เลย ดูหนังฟรี ดูหนังผ่านมือถือ ผ่านสมาร์ทโฟน แอนดรอย IOS สมาร์ทTV

Tags : Narvik Narvik นาร์วิค นาร์วิค