Dream Scenario (2023) คืนนี้จงฝันถึงผม

ดูไม่ได้ให้กดที่นี่

ตัวอย่าง Dream Scenario (2023) คืนนี้จงฝันถึงผม

ดูหนังออนไลน์ Dream Scenario (2023) คืนนี้จงฝันถึงผม

ปีที่ฉาย : 2023

เสียง : ซับไทย

7.2/10

เวลาฉาย : 101 HD

ดูหนัง 2023 ดูหนัง Comedy ตลก ดูหนัง Fantasy จินตนาการ ดูหนัง หนังฝรั่ง ดูหนัง หนังใหม่2023

Dream Scenario (2023) คืนนี้จงฝันถึงผม

เรื่องย่อ

พอล แมทธิวส์ (Nicolas Cage) ชายหนุ่มผู้ไร้โชคและทำงานเป็นช่างซ่อมบำรุงในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองซานฟรานซิสโก เขาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและสิ้นหวัง จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับชายลึกลับคนหนึ่งที่อ้างว่าสามารถทำให้พอลกลายเป็นคนดังได้ ชายลึกลับคนนั้นมอบมีดวิเศษให้พอล และบอกกับเขาว่าหากพอลใช้มีดวิเศษนั้นแทงตัวเองขณะหลับ ผู้คนทั่วโลกจะฝันเห็นเขาในคืนนั้น และเขาจะกลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน พอลไม่เชื่อคำพูดของชายลึกลับ แต่ด้วยความสิ้นหวัง เขาจึงตัดสินใจลองใช้มีดวิเศษ ผลปรากฏว่าคำพูดของชายลึกลับเป็นจริง

ผู้คนทั่วโลกต่างฝันเห็นพอลในคืนนั้น และเขากลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน อย่างไรก็ตาม ความฝันที่กลายเป็นความจริงกลับกลายเป็นฝันร้ายสำหรับพอล ผู้คนต่างคลั่งไคล้ในตัวเขาและตามเขาไปทุกที่ เขาไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกต่อไป และเขาเริ่มรู้สึกกดดันและเครียด พอลพยายามหาทางแก้ไขสถานการณ์ แต่ก็ไม่สำเร็จ ในที่สุด เขาจึงตัดสินใจเผามีดวิเศษทิ้ง แต่นั่นก็ไม่สามารถลบความฝันของผู้คนที่มีต่อเขาได้ พอลต้องใช้ชีวิตต่อไปท่ามกลางความฝันของผู้คน เขาพยายามที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่นี้ และเขาก็เริ่มตระหนักว่าความฝันอาจไม่ใช่สิ่งสวยงามเสมอไป ดูหนัง ออนไลน์

วันที่ออกฉาย

10 พฤศจิกายน 2566 (อเมริกา)

ผู้กำกับ

คริสตอฟเฟอร์ บอร์กลี

บริษัทที่ผลิต

A24, Saturn Films, Square Peg

นักแสดง

เคจ, จูลีแอนน์ นิโคลสัน, ไมเคิล ซีร่า, ทิม มีโดวส์, ดีแลน เกลูลา และดีแลน เบเกอร์

โปสเตอร์หนัง

รีวิวหนัง Dream Scenario

Indie the Pooh

บอกเลยว่า เรื่องนี้ ถึงจะเห็นตัวอย่างในโรง ก็น่าดูนะ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาอะไรมากนัก และไม่คิดจะดู
จนมาเห็นคนพูดถึงกันเยอะ จนต้องตามไปพิสูจน์ และสัปดาห์นี้ไม่ค่อยมีหนังอะไรน่าดูๆเลย มีแต่หนังแนวหนังรางวัล
ซึ่งไม่ใช่ทางเราจริงๆ เพราะดูแล้วน่าเบื่อซะส่วนใหญ่ เรื่องนี้ก็เช่นกัน จากที่ดูตัวอย่างแล้ว ก็แอบกังวลนะ
จะเข้าถึงยากรึเปล่า จะง่วงมั้ย และอย่างที่รู้ๆกันค่ายA24 หนังส่วนใหญ่จะเป็นหนังอินดี้ เพี้ยนๆ ติสๆหน่อย
ค่ายน้องใหม่ มาแรง และไม่เหมือนใคร ซึ่งหลายเรื่องก็โดนใจเรา อย่าง Talk to me แต่Midsummer ก็ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
เพราะส่วนใหญ่ไม่ชอบดูหนังแนวนี้อยู่แล้ว นอกจากเรื่องที่น่าดู หรืออยากเข้าไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง
และเรื่องนี้ ก็เช่นกัน

ความรู้สึกหลังดูจบ

ส่วนตัวคิดว่า เป็นหนังตลกร้าย จิกกัดสังคม สำหรับคอหนังอินดี้ ที่ไม่ควรพลาด ถ้าคนชอบดูหนังแนวนี้ สไตล์หนังค่ายนี้
หนังรางวัล ปรัชญา ตีความ เราแนะนำเลย ถึงพล็อตเรื่อง จะดูเหมือนไม่มีอะไรมาก เราก็คิดนะ ว่าจะเล่าออกมาให้น่าสนใจได้อย่างไร
แต่แน่นอนว่า หนังแนวนี้ ไม่เหมาะสำหรับทุกคนแน่นอน ถ้าไม่ใช่คอหนังอินดี้ ก็ปล่อยผ่านได้เลย อาจจะไม่ชอบก็ได้
ยิ่งหนังเรื่องนี้ ก็แน่นอน ค่ายนี้ ชิงรางวัลอีกแล้ว ก็อย่างที่รู้ๆกัน ว่าหนังรางวัล จะมาแบบใด

สำหรับเรา เราไม่ใช่คอหนังรางวัล หลังดูจบ เราว่า เป็นหนังที่ดูแล้ว ไม่น่าเบื่อกว่าที่คิด ดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ ไม่มีความน่าเบื่อเลย
หนังกระชับดี เล่าเรื่องได้ไม่เนือย และน่าสนใจ มีแะไรให้เราดึงดูดไปกับหนังได้ตลอดทั้งเรื่อง
แต่ถ้าถามว่าชอบมั้ย ก็กลางๆ ไปดูก็ได้ ไม่ไปดูก็ไม่ได้พลาดอะไร ถ้าไม่ใช่สายหนังรางวัลนะ

หนังมีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะมาก ชอบMessage ที่หนังต้องการสื่อ ให้คนดูหนังได้รับรู้ อย่างการมีชื่อเสียงในสังคม
การเป็นคนดัง จากไวรัล ข้อดี และข้อเสียของมัน สิ่งต่างๆ ที่เราคาดไม่ถึง
ยังแฝงนัยยะต่างๆ แง่คิด ที่ให้เราฉุกคิดในสังคมปัจจุบัน มันก็โหดร้ายแบบหนังจริงๆ

หนังมีหลากหลายอารมณ์ มีตลกร้าย คอมเมดี้ ซึ้ง เศร้า ดราม่า และสยองขวัญ ซึ่งหนังที่เล่นกับความฝัน แน่นอนอยู่แล้ว
เพราะมันสามารถไปได้หลายแนว และหลายทางมากๆ แบบไร้ขีดจำกัด สามารถมีความแฟนตาซี ความโหด ทริลเลอร์ ความเหลือเชื่อ บลาๆๆ

หนังมีความดาร์กสูงมากๆ ไม่ได้ดูแล้วจะตลก หรือใสๆ แบบในตัวอย่าง ในหนังมีความอึดอัด มีหลายอารมณ์มากๆ ที่หนังให้กับเรา
คือดูไปก็แอบสงสารพอล นี่คือสื่งที่เขาได้รับหรอ ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ ดราม่าสุดท้าย คือก็ร้องไห้ไปกับพอลเหมือนกันนะ
ที่เขาอัดคลิประบาย เราเข้าใจหัวอกเขาเลย แล้วตูผิดอะไร ทำไมถึงเจอแบบนี้ แต่อีกมุมหนึ่ง พอเราได้มองย้อนกลับไป
พอลก็ค่อนข้างมีอีโก้สูง ไม่ฟังใคร และเป็นคนที่เอาตัวเอง และการกระทำ การตัดสินใจบางอย่าง ที่เพี้ยนๆ

และเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก มันมีความคิดที่2แง่สองง่ามให้หัวเรา แต่โดยรวม มันคือความรู้สึกสงสารนะ ถ้าเป็นเรา เจอแบบนี้
มันก็โคตรไม่แฟร์เลย ทำไมสังคมทำร้ายเราในชีวิตจริง ทั้งที่ทั้งหมดมันเกิดขึ้นในฝัน และเราไม่ได้ทำอะไรเลย
ถึงได้บอกว่า เรื่องนี้ พอดูไป หนังแฝงอะไรไว้เยอะมาก ทั้งสังคม โลกโซเชียล ข้อดีข้อเสีย ของการมีชื่อเสียง
ที่มาแล้ว คนก็ลืมง่ายๆ แต่ตอนมา ก็เป็นกระแสเยอะเหมือนกัน นี่มันคือเรื่องจริงของยุคนี้เลย การถูกคุกคาม ความไม่เป็นส่วนตัว
อิทธิพลจากสื่อ โซเชียล สมัยนี้มีผลกับคนเรามากจริงๆ
รวมไปถึงการตลาด โฆษณาต่างๆ ในโซเชียลปัจจุบัน คือหนังใส่อะไรไว้เยอะจริงๆ ถ้าคนที่ได้ไปดูเรื่องนี้ แล้วคิดตาม จะรู้ว่าหนังมีอะไรเยอะมากๆ

องค์ท้ายหนังได้พาเราไปไกลมาก ไปแบบคาดไม่ถึงเลยงานภาพเรื่องนี้ ไม่ต้องแปลกใจ ว่าทำไมภาพแปลกๆ ไม่ใช่กากเพชร จากโรงหนังเลเซอร์แต่อย่างใดเพราะหนังใช้กล้องฟิล์มถ่าย นั่นคือสาเหตุที่ภาพออกมาแนวนี้ อาจจะดูไม่ชัด เก่าๆหน่อย แต่ก็ได้ฟีลไปอีกแบบ

ดนตรีประกอบ และจังหวะหนัง ฉากต่างๆ ทำออกมาได้ดีมากๆนักแสดงทุกคนเล่นดี โดยเฉพาะนักแสดงนำ อย่าง นิโคลัส เคจ เล่นดีมากๆ ตีบทแตก ทำให้เราเชื่อเลย ว่าเขาเป็นศาสตราจารย์จริงๆและเป็นคนๆนั้นจริงๆ เป็นการแสดงที่น่าจดขำของเคจเลย น่าจะได้ลูกโลกทองคำปีนี้รึเปล่า ต้องมาลุ้น เพราะเข้าชิงแล้ว

ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ Dream Scenario

หนังอาจจะมีความไม่น่าสนใจ ในการเล่าเรื่องช่วงแรกๆ อาจจะมีช้าๆบ้าง ก็เข้าใจได้ว่าหนังผู้กำกับสแกนดิเนเวียน ก็จะประมาณนี้เราไม่ชอบองค์ท้ายของหนัง มันพาเราไปไกลเกินไป ทั้งที่ควรจริง มันน่าจะหยุดแค่ตรงนั้น ไม่น่าออกทะเลไปไกลเลย มันดูไม่เข้ากับหนังทั้งเรื่องที่เล่ามา ดูแล้วไม่เป็นเนื้อเดียวกันเท่าไหร่

สำหรับคะแนนความชอบ ให้ 7/10 คะแนน ใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาแชร์กัน

รีวิวไปเรื่อย

📌ขอเทียบกับ A24 ปีเดียวกัน อย่าง ‘โบอย่าไปกลัว’
อันนั้นเล่นความกลัวใต้จิตสำนึก อันนี้เล่นความฝัน
📌องค์ประกอบในเรื่องไม่ตลก แต่โคดตลกฉิหัย
📌ป๋านิคเคจองค์ลงประทับ ดูจบอยากปรบมือจริงครับ
📌ออ อาเบิ้มพากย์เสียงป๋า ผมว่าถึงพริกถึงขิงอยู่นา
📌จี๊ดกับประเด็นคว่ำบาตร-ล่าแม่มด-ทุนนิยม
📌องก์ 3 ถ้าใครอ่านต้นเค้าเรื่องจริง จะแบบ…ตูว่าละ
แม้พยายามจะเลี้ยวหักหลบ แต่ผมตีสัญญะไปเวย์นั้น
📌คุณพรี่เล่นเปิดมาสะดุ้งแบบเน้ อิชั้นก็หวาดระแวงฉากที่แช่ความเงียบนานๆ เซ่ (และมาบ่อยด้วยนะ!)