Exhuma (2024) ขุดมันขึ้นมาจากหลุม

ดูไม่ได้ให้กดที่นี่

ตัวอย่าง Exhuma (2024) ขุดมันขึ้นมาจากหลุม

ดูหนังออนไลน์ Exhuma (2024) ขุดมันขึ้นมาจากหลุม

ปีที่ฉาย : 2024

เสียง : ซับไทย

7.4/10

เวลาฉาย : 134 HD

ดูหนัง 2024 ดูหนัง Horror สยองขวัญ ดูหนัง Mystery ลึกลับ ดูหนัง Thriller ระทึกขวัญ ดูหนัง หนังซับไทย ดูหนัง หนังเกาหลี ดูหนัง หนังเอเชีย ดูหนัง หนังใหม่2024

Exhuma (2024) ขุดมันขึ้นมาจากหลุม

เรื่องย่อ

Exhuma (2024) ขุดมันขึ้นมาจากหลุม ครอบครัวชาวเกาหลีฐานะดีที่อาศัยอยู่ในแอลเอ ได้เจอกับเหตุการณ์แปลกประหลาดเหนือธรรมชาติซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงได้ติดต่อสองคู่หูคนทรง ฮวาริม (คิม โก-อึน) และบงกิล (อี โด-ฮยอน)แล้วว่าจ้างทั้งคู่เพื่อหาวิธีปัดเป่าเรื่องร้าย ฮวาริมสัมผัสได้ถึงพลังงานร้ายของผีบรรพบุรุษที่คอยหลอกหลอนคนในตระกูล จึงขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย ซังด็อก (ชเว มิน-ชิก) และสัปเหร่อ ยองกึน (ยู แฮ-จิน) ทั้งหมดเดินทางไปยังหลุมศพ ซึ่งตั้งอยู่ในผืนที่ดินลึกลับ ณ หมู่บ้านที่รกร้างห่างไกลในเกาหลี เพื่อขุดโลงศพขึ้นมาทำพิธี ทว่า เหตุการณ์ทั้งหมดกลับพลิกผันเกินคาดคิด เมื่อการขุดโลงศพจากหลุมฝังครั้งนี้ นำไปสู่การปลดปล่อยสิ่งชั่วร้ายที่มุ่งอาฆาตจะเอาชีวิตทุกคน ดูหนัง ออนไลน์

ผู้กำกับ

Jang Jae-hyun

บริษัท ค่ายหนัง

Showbox
Pinetown Productions
MCMC

นักแสดง

Choi Min-sik
Kim Go-eun
Yoo Hae-jin
Lee Do-hyun

โปสเตอร์หนัง

รีวิวหนัง

imxhill

ครึ่งแรกของ Exhuma เป็นเรื่องที่น่ากังวล น่าขนลุก และตึงเครียด โดยเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างนิทานพื้นบ้านของเกาหลีใต้และความเชื่อในตำนาน มันกระตุ้นให้เกิดความน่าสะพรึงกลัวและความลึกลับสากลเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสิ่งที่เราซึ่งเป็นผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่และดำเนินอยู่บนโลกนี้ สามารถและควรทำเกี่ยวกับเรื่องนั้น สะพานแห่งจิตวิญญาณและเหนือธรรมชาติที่ห้อยอยู่ระหว่างสองโลก มันทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนหนังสยองขวัญเรื่องลึกลับอาถรรพณ์ บรรยากาศดีเยี่ยม ไม่มีวันลืมเลือน พร้อมช่วงเวลาที่น่าจดจำ

แต่แล้วมันก็มาถึงจุดกึ่งกลางของเรื่อง มีบางอย่างเกิดขึ้นซึ่งทำให้ฉันไม่แน่ใจแน่ชัดว่าฉันรู้สึกอย่างไรกับหนังเรื่องนี้โดยรวม พูดให้ชัดเจน: ฉันยังคงชอบมันมากและถึงกระนั้นมันก็เป็นหนังที่แข็งแกร่ง แต่ความไม่สบายใจและความตึงเครียดที่กล่าวมาข้างต้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว และไม่เคยขึ้นถึงระดับสูงสุดเท่าครึ่งที่แล้วเลย เป็นการเปิดเผย/การตัดสินใจที่ฉันชื่นชม เนื่องจากมีความทะเยอทะยาน สร้างสรรค์ และเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เราไม่ค่อยเห็นในภาพยนตร์เกาหลีใต้ ยังช่วยให้เอฟเฟกต์ที่ใช้งานได้จริงประกอบกับมันน่าทึ่งมาก อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนโทนเสียง/ลักษณะที่สั่นสะเทือนของมันทำให้ฉันไม่ชอบเลย ฉันขอแนะนำให้เข้าไปดูหนังเรื่องนี้โดยเด็ดขาด!

หักไประหว่าง 3.5 ถึง 4 ดาว ภาพยนตร์เรื่องนี้นำจุดแข็งของสององก์แรกไปสู่องก์ที่สาม และทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้คงเส้นคงวามากขึ้น มันจะเป็น 4 ดาวอย่างง่ายดายและอาจ 4.5 เป็นอีกครั้งที่ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม และฉันขอแนะนำเรื่องนี้ให้กับทุกคนที่สนใจภาพยนตร์สยองขวัญที่มี DNA เกาหลี/เอเชียที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวฝังอยู่

8/10 คะแนน

Kanin The Movie

เป็นหนังปราบผีที่พูดได้เต็มปากว่าสนุกมาก ถึงเลเวลความน่ากลัวจะมาแบบกลางๆ แต่ความมันส์ไม่เป็นรองใครแน่นอน แม้ภาพรวมตั้งแต่ตัวพล็อต คอนฟลิกต์ จนถึงเมสเสจของหนังอาจจะไม่ได้ไกลจากหนังเกาหลีที่ผ่านๆ มา (ในหลากหลาย genre) แต่สิ่งที่ Exhuma (2024) แข็งแรงมากคือไดเรคชั่น เพซซิ่ง และตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนความระทึกให้ออกมาอย่างไม่มีขาดตอน พร้อมกับเสน่ห์ และรสชาติเฉพาะตัวที่ตราตรึงใจ และให้ของใหม่แบบไม่คาดคิดกับผู้ชม (ซึ่งก็อยู่ที่ว่าจะซื้อไม่ซื้อ แต่ส่วนตัวชอบมาก) ดูจบแล้วอยากให้มันทำเป็นจักรวาลไปเลย ทุกคนยังมีของ โลกดูมีอะไรให้ไปต่ออีกเพียบ ไม่แน่นี่อาจกลายเป็นแฟรนไชส์The Conjuring เกาหลีก็ได้

พล็อตเรื่องโดยคร่าวๆ คือหนังเล่าผ่านหมอผี ร่างทรง ซินแส และสัปเหร่อที่มาแท็กทีมกันช่วยแก้ปัญหาให้ครอบครัวมหาเศรษฐีที่ถูกคำสาปจากรุ่นสู่รุ่น โดยเชื่อว่าการทำพิธีขุดสุสาน และบูชายัญจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนั้นคือมหากาพย์ความฉิบหายวายวอดที่ทั้งครอบครัวผู้ว่าจ้าง และทีมงานปราบผีต้องรับมือ

พอไม่ได้ดูตัวอย่างหนังมาก่อน (และตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดู) ก็เลยไม่รู้เลยว่าหนังจะมาไม้ไหม จริงๆ ในใจแอบนึกถึง The Wailing (2016) ก่อนชม (เป็นหนังไล่ผีที่สนุก และเลือดเย็นมาก) แต่จริงๆ ไม่ใช่เวย์นั้นเลย Exhuma หาที่ทางจุดยืนให้กับเรื่องราว บรรยากาศ และโลกของตัวเองได้อย่างสนุก ตื่นเต้น และเป็นเอกลักษณ์ สัมผัสได้ตั้งแต่องก์แรกที่หนังค่อยๆ เซ็ตอัพอย่างค่อยเป็นค่อยไป ก่อนจะค่อยๆ ถาโถมใส่ผู้ชม และจบด้วยความไม่ประนีประนอมใดๆ ทั้งสิ้น โดยอยู่ในบีทที่รู้สึกว่าไม่อาจละสายตาได้ตลอดทั้งเรื่อง (หาจังหวะจะไปเข้าห้องน้ำไม่ได้ สุดท้ายไม่เข้าแม่ง 555) เรารู้สึกว่าหนังมันมันส์มาก ทั้งที่จริงๆ มันไม่ได้มีอะไรมากเลย แต่เหมือนเราถูกสะกดไว้กับดีเทลแต่ละส่วน พื้นที่ ตัวละคร รวมไปถึงเรื่องราวเบื้องลึก (ซึ่งพูดแล้วสปอยล์แน่นอน) ยิ่งดูยิ่งรู้สึกว่าหนังมีของ และเมื่อถึงจังหวะที่มันพร้อมจะระเบิดทุกสิ่ง เราก็พบว่าแม่งมีของจริงๆ เป็นของไม่ซ้ำใครด้วย ทั้งเหวอ ทั้งมันส์ ทั้งหลุด

คอนเซ็ปต์การขุดสิ่งที่ถูกฝัง ดึงมันขึ้นมาให้มีชีวิตที่เล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหนังเป็นไอเดียที่เราชอบมากๆ ยิ่งเมื่อมันถูกนำมาขมวดกับเรื่องราวจริงๆ ที่หนังอยากจะพูดก็รู้สึกว่าเป็นหัวข้อที่แข็งแรง คือทั้งกับการสร้างเงื่อนไข บรรยากาศ จนถึงสานส์สำคัญของตัวหนังที่แรงกล้ามากๆ (ดูแล้วจะเข้าใจ) พอดูจบแล้วก็คิดว่า เออ อยากมาทางนี้ก็ต้องทำให้สุดไปเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว สิ่งที่ชอบคือมันซีเรียสกับสิ่งที่จะเล่าจริงๆ ชอบความจริงจังของหนังทั้งที่จริงๆ มันบ้ามาก แต่เราก็ไม่ได้ถูกผลักออกจากความตึงที่หนังตั้งต้นมาตั้งแต่เริ่ม ซึ่งสิ่งสำคัญอาจมาจากไดอะล็อก และโมโนล็อคที่หนังพูดถึงสารพัดสิ่งเยอะมาก ตั้งแต่มนุษย์ วิญญาณ ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ การเมือง ชาติพันธุ์ ฯลฯ

อาจจะรู้สึกว่าเขียนไรไม่เยอะมาก เพราะมันเขียนไม่ได้จริงๆ ไว้มาเขียนอีกบทความแยกที่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญคงเป็นการดีมากๆ เพราะสำหรับเรา เป็นประสบการณ์แบบ ‘ไม่รู้อะไรเลยจะดีที่สุด’ คือรู้แค่ว่าเป็นหนังปราบผีที่สนุกมากๆ เรื่องหนึ่งก็พอ และคู่ควรแก่การถูกต่อยอดไปสู่เรื่องราวอื่นๆ ประเด็นใหม่ๆ เพราะสัมผัสได้ถึงความกล้า และทะเยอทะยานของคนทำที่ทำถึงจริงๆ (ซึ่งต้องชมทีมแคสต์ 4 คนหลักด้วยที่ทำหน้าที่ได้ดีมาก) ถือว่าเป็นงานเซอร์ไพรซ์อีกเรื่องในช่วงต้นปีนี้ บันเทิงจริงๆ

dir. Jae-hyun Jang
คะแนน 8/10