D7
D13

All Quiet On The Western Front (2022) แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

ดูไม่ได้ให้กดที่นี่

ตัวอย่าง All Quiet On The Western Front (2022) แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

ดูหนังออนไลน์ All Quiet On The Western Front (2022) แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง
ปีที่ฉาย :

เสียง : พากย์ไทย

ดูหนังออนไลน์ฟรี All Quiet On The Western Front (2022) แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง on IMDb8.0/10 เวลาฉาย : 147 HD

DOOMOVIE ดูหนัง All Quiet On The Western Front (2022)

DOOMOVIE ดูหนัง All Quiet On The Western Front (2022) แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง “แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง (All Quiet on the Western Front)” บอกเล่าเรื่องราวน่าติดตามของหนุ่มนายทหารเยอรมันบนสมรภูมิรบแนวหน้าด้านตะวันตกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 พอลและสหายผู้ร่วมรบได้พบประสบการณ์ตรงของความรู้สึกสนุกตื่นเต้นที่ได้เข้าร่วมรบในตอนแรก ก่อนแปรเปลี่ยนกลายเป็นความรู้สึกสิ้นหวังและหวาดกลัว เมื่อต้องต่อสู้เพื่อรักษาทั้งชีวิตของตัวเองและเพื่อนๆ ให้รอดในสนามเพลาะ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับ เอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์ โดยสร้างจากนิยายขายดีชื่อเดียวกันที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกของเอริช มาเรีย เรอมาร์ค

พวกเราบางทีก็อาจจะเคยได้เห็นได้ดูหนังการทำศึกที่สร้างออกมาเรื่อยในทุกปี แต่ว่าก็ยังไม่ค่อยมองเห็นหนังสงครามที่มาจากมุมมองพลทหารฝั่งเยอรมันกันหลายครั้งนัก และก็ “All Quiet On the Western Front แนวรบทางด้านตะวันตก เรื่องราวไม่เปลี่ยนแปลง” ก็นับได้ว่าเป็นหนังสงครามเยอรมันที่ชอบถูกถือมาสร้างภาพยนตร์เป็นประจำเนื่องจากมันสะท้อนถึงการต้านการศึกจากผลพวงทั้งสิ้นที่เกิดขึ้น อีกทั้งทางร่างกายและก็ทางด้านจิตใจ แล้วก็นี่ก็เป็นอีกทีหนึ่งที่เอามาผลิต

All Quiet On The Western Front (2022) แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

All Quiet on the Western Front เล่าราวน่าติดตามของชายหนุ่มนายทหารเยอรมันบนสนามรบรบแนวหน้าทางตะวันตกในตอนสงครามโลกครั้งที่ 1

พอลแล้วก็เพื่อนผู้ร่วมรบได้เจอประสบการณ์ตรงของความรู้สึกสนุกสนานตื่นเต้นที่ได้ร่วมรบในตอนแรก ก่อนเปลี่ยนแปลงแปลงเป็นความรู้สึกท้อใจแล้วก็กลัว เมื่อจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อรักษาตลอดชาติของตนเองแล้วก็เพื่อนพ้องๆให้รอดในสนามเพลาะ

นี่เป็นผลงานการดูแลและก็เขียนบทของ “เอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์” ผู้กำกับโด่งดังชาวเยอรมัน ที่เคยแจ้งมีเหตุมาจากเรื่อง Jack เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ โดยหนังประเด็นนี้ปรับเปลี่ยนสร้างขึ้นจากนิยายขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าชื่อเดียวกันของ “เอริช มาเรีย เรอมาร์ค” ที่นับว่าเป็นผลงานเขียนชิ้นเยี่ยมแนวต้านการรบของเขา แล้วก็จัดได้ว่าวรรณบาปคลาสสิกเล่มหนึ่งของเยอรมันอย่างยิ่งจริงๆ

หนังสะท้อนให้มองเห็นถึงความเถื่อนของการสู้รบ กับเบื้องหลังที่เป็นตอนๆปลายสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ในสมัยนั้นนับได้ว่าเป็นสิ่งที่ท้าแล้วก็น่าตื่นตาตื่นใจของเด็กวัยหนุ่มแบบใหม่ ที่ต้องการจะท้าตนเองสำหรับการลงสมสู่รภูเขาไม่ แม้กระนั้นเมื่อลงในสนามจริงไปแล้วพวกเขากลับจำต้องประจันหน้ากับสิ่งที่ไม่เคยคาดหวังมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความโหดที่จำเป็นต้องฝ่าป่าดงลูกกระสุนนับไม่ถ้วน นี่เป็นหนังที่เปิดมุมมองแสนดราม่าในการสู้รบ

แน่ๆว่าทางด้านส่วนประกอบงานสร้างนั้น All Quiet on the Western Front ก็อดที่จะทำให้นำไปเปรียบเทียบกับหนังสงครามสายรางวัลที่พึ่งยิ่งใหญ่ไปหมาดๆอย่าง 1917 ของ แซม เมสเดส มิได้ ทั้งยังมุมภาพและก็มุมกล้องถ่ายภาพถ่ายทอดออกมาได้คล้ายกัน แม้กระนั้นบางครั้งก็อาจจะเพราะเบื้องหลังเป็นตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 เช่นเดียวกัน ทำให้บรรยากาศอะไรต่างๆนั้นไม่ต่างอะไรกันอะไรกันมา

แต่ว่าก็จำเป็นต้องสารภาพว่า All Quiet on the Western Front ยังออกจะเปรียบเทียบชั้นกับหนังสงครามแบบ 1917 ไม่ค่อยจะได้ ด้วยเหตุว่าลีลาท่าทางและก็สไตล์ของหนังยังไม่ละเอียดถึงขั้นนั้น แต่ว่าเมื่อย้ายมาเล่าผ่านมุมมองฝั่งเยอรมันแล้วนั้น ก็จะได้เจอกับอีกมุมที่ค่อนข้างจะแปลกใหม่จากการเห็นในหนังฮอลลิวูดนิดเดียว โชคร้ายที่หนังสงครามเยอรมันหัวข้อนี้ ออกจะใส่เนื้อหาลงไปแค่เพียงระดับผิวเผินเพียงแค่นั้น

  • ด้วยความยาวแทบ 2 ชั่วโมงครึ่งของหนังหัวข้อนี้

ที่จุดสำคัญแล้วก็จุดโฟกัสหลักที่มิได้หนักแน่นพอเพียงเยอะแค่ไหน มีเพียงแค่ฉากการสู้รบในสนามรบเพียงแค่นั้นซึ่งสามารถประทับใจผู้ชมเอาไว้ได้ ฉากเสริมต่างๆทั้งยังการสนทนาหรือกระชับมิตรต่างๆเสมือนใส่เข้ามาเกินจำ และไม่ได้เพิ่มความมั่นคงให้กับตัวหนังได้มากเท่าใด เป็นจุดที่ทำให้หนังมองเยิ่นเย้อรวมทั้งยืดยาวไปสักนิด

ที่รับศึกหนักสุดๆในหนัง All Quiet on the Western Front หัวข้อนี้ก็จำเป็นต้องตบมือให้กับ “เฟลิกซ์ คัมเมอเรอร์” ผู้แสดงชายหนุ่มดาวรุ่ง ที่แทบจำเป็นต้องแบกรับหนังสงครามยิ่งใหญ่หัวข้อนี้เอาไว้ตามลำพังดูเหมือนจะทั้งหมดเลยก็ได้ว่า เขาเป็นตัวละครที่หนังใช้เป็นตัวดำเนินเรื่อง ก็คล้ายกับแบบที่ 1917 ทำ ก็แค่ความกลมกล่อมแล้วก็แยบยลนั้นยังไม่ค่อยข้างละมุนมากมายสักเท่าไหร่ แต่ว่าชายหนุ่มคนนี้ก็ทุ่มหมดตัวพอได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากสนามรบไคลแม็กซ์ช่วงท้ายของเรื่อง ที่ในตอนนั้นผู้แสดงก็อ่อนเพลียและก็ผู้ชมก็อ่อนล้า พวกเราได้มองเห็น เฟลิกซ์ คัมเมอเรอร์ ระเบิดอารมณ์และก็ปล่อยของทางการแสดงออกมาได้อย่างเต็มกำลัง ถือว่าเป็นศิลปินชายหนุ่มคนใหม่ที่แทบเล่นหนังหัวข้อนี้เกิดเรื่องแรก แต่ว่านับว่ามอบการแสดงที่ถูกใจ รวมทั้งเขาสามารถแบกรับหน้าทั้งยังเรื่องเอาไว้ได้อย่างมาก

โดยสรุปแล้วนั้น All Quiet on the Western Front นับได้ว่าเป็นหนังสงครามจากชีวิตพลทหารแนวหน้าของเยอรมัน ที่พาผู้ชมไปส่องมุมมองการรบในสมัยนั้น ที่แนวความคิดของพวกเขากับสนามรบของแท้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วก็ยังสะท้อนในมองเห็นแม้กระนั้นผลเสียที่เกิดจากภาวะการเกิดสงคราม อีกทั้งการสิ้นไปกำลังพังทลายรวมทั้งสรรพาวุธต่างๆทั้งยังยังทำให้เกิดเป็นบาดแผดในใจประจำตัวไปกับผู้รอดพ้นจากความตายจากการทำศึกไปชั่วกัลปวสาน

All Quiet On The Western Front (2022) แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

  • สละเลือดทุกหยาดหยดเป็นชาติพลี’ หรือเพียงแต่ผู้ประโคมรรมรักชาติที่เขาคดโกง

ภาพยนตร์เชื้อชาติเยอรมนีเรื่อง All Quiet on the Western Front ของ Edward Berger ซึ่งสตรีมทางช่อง Netflix ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงจากวรรณกรรมคลาสสิกชื่อเดียวกันของผู้เขียนเยอรมนี Erich Maria Remarque ซึ่งนับเนื่องจนกระทั่งตอนนี้ก็แก่แทบร้อยปี (ตัวนิยายพิมพ์เป็นรูปเล่มทีแรกในปี 1929) บอกเล่าเรื่องราวสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

ซึ่งนับเนื่องจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ล่วงเลยไปแล้วร้อยกว่าปี (การทำศึกเลิกปี 1918) รายละเอียดเพิ่มเติม งานประพันธ์ของ Remarque เคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สองครั้ง ซึ่งนับเนื่องจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ All Quiet on the Western Front ฉบับปี 1930 ของ Lewis Milestone ยังคงได้รับการเล่าขานถึงในฐานะเวอร์ชันที่ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงได้ครบสมบูรณ์ที่สุด รวมทั้งยังชนะรางวัลออสการ์ภาพยนตร์ดี

ปริศนาที่บางครั้งอาจจะผุดในห้วงพิจารณาของผู้ชมก็คือ เหตุผลอะไรที่นำพาให้ Edward Berger นำนิยายของ Remarque กลับมาปรับเปลี่ยนเป็นภาพยนตร์อีกที แล้วก็สิ่งที่บอกยังคงเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับโลกขณะนี้หรือเปล่า เช่นไร

ว่ากันตามจริงแล้ว ลำพังการปรับเปลี่ยนให้ภาพยนตร์มองทันยุคทันสมัยเยอะขึ้นเรื่อยๆด้วยความอำนวยของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ด้วยไวยากรณ์ใหม่ๆทางด้านภาพ เสียง การตัดต่อ การออกแบบงานสร้าง ด้วยการแสดงที่สมจริงสมจังมากเพิ่มขึ้น ด้วยการนำเสนอมุมมอง การแปลความหมายรวมทั้งวิสัยทัศน์ของคนทำหนังรุ่นหลาน นัยว่าเพื่อติดต่อกับผู้ชมร่วมยุค ก็ถือว่าเป็นคำชี้แจงที่แน่นหนาและก็รัดกุมในตัวมันเองพอเพียงแล้ว และก็รูปโฉมโนมพรรณของ All Quiet on the Western Front ฉบับปี 2022 ก็มองเป็นภาพยนตร์ของศตวรรษที่ 21 จริงๆ

ที่แน่นอนงานควบคุมภาพของภาพยนตร์ก่อความไม่สงบทางอารมณ์ ผ่าน ‘คอนทราสต์’ ระหว่างระยะเวลาที่สวยและก็น่าตื่นตะลึงงันของธรรมชาติ และก็มันหยิบยื่นความรู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างน่าอภิรมย์ กับหลายๆฉากที่ผู้ผลิตพาผู้ชมไปเจอหน้ากับความเหี้ยมโหดอำมหิตและก็สยองขวัญของการฆ่าแกงกันชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน และก็การเช็ดกกำทีดให้สอดส่องความอุจาดและก็น่าเกลียด ความชั่ว มืดทึบ และไม่มีอะไรต้องใจต้องตาสักสิ่งเดียว ก็เป็นสภาวะที่สุดแสนทานทน

และก็ส่วนที่ทำให้ภาพยนตร์การรบของ Berger มอง ‘โมเดิร์น’ มากมายๆก็คือดนตรีประกอบที่มิได้ดำเนินงานตามขนบที่รู้จักดี อันเช่นกระแสเสียงที่แอบอยู่ข้างหลังบ้านแล้วก็เห่กล่อมอารมณ์ความรู้สึกของพวกเราอย่างผลุบๆโผล่ๆแต่โน้ตเพลงทุ้มต่ำรวมทั้งหนักแน่นสามตัวซึ่งถูกใช้บ่อยๆตลอดเรื่อง (หรือที่เรียกว่า Motif) ถูกรีบระดับความดังจนถึงแทบเขย่าผู้ชมตกจากเก้าอี้ รวมทั้งมันไม่เพียงแค่สร้างความรู้สึกว่าตัวเองผิดที่ผิดทางกับภาพข้างหน้า ยังเป็นเปรียบเสมือนลางร้ายย้ำเตือนถึงเรื่องร้ายๆที่กำลังจะเกิดขึ้น

แม้กระนั้นความพิเศษที่นำพาให้ All Quiet on the Western Front เป็นมากมากกว่า ‘อัปเดตเวอร์ชัน’ ของทั้งยังหนังสือแล้วก็ภาพยนตร์คลาสสิกปี 1930 ก็เป็นอย่างที่ตัว Edward Berger ให้สัมภาษณ์ว่านี่เป็นภาพยนตร์ที่สร้างผ่านมุมมองและก็วิสัยทัศน์ของคนเยอรมนี ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่าเป็นเชลยชั่วกับชั่วกัลป์เวลาผู้ใดกันแน่เอ๋ยถึงสงครามโลกทั้งคู่ภาค

แล้วก็พวกเขาชอบอยู่ในสภาวะน้ำหลากปาก กล่าวอะไรมากมายมิได้ เพราะเหตุว่าหัวเรื่องดังที่กล่าวผ่านมาแล้วเป็นราวกับเผือกร้อน ทั้งยังสถานะของการเป็นผู้แพ้การทำศึกก็ยังมากับเงื่อนไม่ถูกบาป ความเจ็บขมขื่น ความน่าอัปยศ ความกลัดกลุ้มหมดหวัง รอยแผลที่อักเสบกลัดหนอง ฝันร้ายที่หลอก นั่นนับได้ว่านี่เป็นสิ่งที่ผู้ชมเกือบจะไม่เผชิญในรูปภาพยนตร์การสู้รบ ‘เมดอินฮอลลีวูด’

ในด้านหนึ่ง นิยายของ Erich Maria Remarque เสนอด้านที่อับเฉาซึมเศร้ากลุ่มนี้อย่างครอบคลุมตามความตั้งใจที่นักเขียนในฐานะอดีตกาลทหานที่เคยผ่านการรบประกาศไว้ตั้งแต่หน้าแรก ประมาณว่ามันถูกเขียนขึ้นเพื่อเล่าคนรุ่นหนึ่งที่ถูกส่งไปรบ และก็แม้กระทั่งพวกเขารอดพ้นจากแนวลูกกระสุน ชายหนุ่มพวกนั้นก็ยังถูกการสู้รบดูถูกล้างผลาญอยู่นั่นเอง

ว่าไปแล้วสิ่งที่ถูกชี้แจงในรูปภาพยนตร์ของ Edward Berger ก็คือการให้มีความเห็นว่าเครื่องจักรที่เรียกว่าการสู้รบบดขยี้ความเป็นคนของผู้แสดงอย่างใจยักษ์และไม่ปรานีปราศรัยเท่าใด หรืออีกแง่หนึ่ง ในขณะผู้ชมถูกกำหนดให้เฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงของผู้แสดงนำที่ชื่อ Paul Bäumer (Felix Kammerer) ผู้ซึ่งในตอนเริ่มเขาเป็นเด็กวัยรุ่นใบหน้าผ่องใสและก็เต็มเปี่ยมด้วยเลือดเนื้อแล้วก็ความร่าเริง แต่ว่าชีวิตในสนามรบไม่เพียงแต่กลืนรวมถึงยิ้มแย้มแจ่มใส คล่องแคล่ว และก็ปลดปล่อยให้เขาอยู่ในภาวะที่ดูไม่สดใสและดูหม่นหมองอ่อนเพลีย ถ้าหากยิ่งเวลาผ่านไป Paul ก็มองใกล้เคียงกับศพที่ไม่ทราบสึกทราบสมกับความเป็นไปรอบตัวมากขึ้น

สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ ผู้ชมเกือบจะมิได้มองเห็นต้นตอที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังรวมทั้งรอโหมกระจายไฟการรบ เนื่องเพราะตามที่เกริ่นข้างต้น ทั้งยังหนังสือและก็ภาพยนตร์เน้นย้ำไปที่เรื่องของคนตัวเล็กๆในสนามรบ แม้กระนั้นเมื่อจะพูดว่าไม่มีเลยก็ผิดจะต้องนัก รวมทั้งนักแสดงสองคนผู้ซึ่งบางทีอาจเรียกว่าเป็นเชียร์ลีดเดอร์ และก็เชื่อได้ว่าผู้ชมเฝ้าดูพวกเขาด้วยความรู้สึกรังเกียจน่าขยะแขยง คนหนึ่งก็คือคุณครูที่พูดจากระตุ้นเร้าเด็กนักเรียนของตนเองให้สมัครไปรบ

ด้วยถ้อยคำที่เปี่ยมไปด้วยวาทศิลป ใครกันแน่ฟังก็อดรู้สึกฮึกเหิมแล้วก็พองโตมิได้ ถึงแม้ว่าประโยคของคุณครูคนนี้มิได้ปกปิดความเป็นจริงที่ว่า พวกเขาเป็นแค่เพียงเบี้ยบนกระดานที่เอาไว้เล่นหมากรุก และก็จุดมุ่งหมายก็คือการ ‘สละเลือดทุกหยาดหยดเป็นชาติพลี’ ซึ่งโดยอ้อมโน่นหมายคือชีวิตหรือความตายของเขามิได้สื่อความหมายที่สำคัญมากพอๆกับความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเอาเข้าในความเป็นจริงแล้วมันเป็นเพียงแค่ประโยคสวยงามซึ่งซ่อนผลตอบแทนของชนชั้นดูแลไว้เบื้องหน้าเบื้องหลัง

  • อีกคนหนึ่งอย่างเช่นนายพล Friedrichs (Devid Striesow)

ซึ่งสั่งจากหอสังเกตการณ์งาของตน ข้อที่ควรจะกำหนดก็คือผู้แสดงนี้มิได้มีอยู่ในนิยาย แต่ทว่าในทางของฟังก์ชัน ท่าทางนี้สืบต่อรวมทั้งต่อยอดรายละเอียดของ Remarque อย่างน่าดึงดูด พูดสรุปสั้นๆในด้านของติดอยู่แรกเตอร์ หมอนี่เป็นแบบอย่างของนายพลใฝ่ถึงการทำศึกรวมทั้งศักดิ์ศรีเกียรติยศ ตลอดจนการถือตัวทรนง (ทึ่มๆ) ของเขาสามารถแลกเปลี่ยนได้ด้วยชีวิตของทหารที่ไม่ดีกี่ร้อยกี่พันก็ได้

แต่ว่าถึงแม้ท่าทางของนายพลใบหน้าบึ้งคนนี้จะถูกเสกสรรค์ปั้นแต่งขึ้น แต่ทว่าสถานะการณ์ที่เขาปลุกระดมให้ไพร่พลออกศึกเป็นหนสุดท้ายถึงแม้ว่าข้างเยอรมนีสนทนาหย่าศึกกับประเทศฝรั่งเศสไปเป็นระเบียบแล้ว รองรับด้วยข้อพิสูจน์ รวมทั้งแน่ๆผลสรุปของมันก่อเกิดอาการบาดเจ็บตายแล้วก็สูญเสียที่ไม่มีความจำเป็น

ส่วนที่น่าสลดหดหู่ก็ตรงที่ภายหลังนายพลคนนี้ ‘สำเร็จความใคร่ด้วยนักดนตรีรรมรักชาติ’ เสร็จและก็ลอดกลับเข้าถ้ำตนเอง และก็ปลดปล่อยให้ทหารที่เหลือซึ่งไม่มีกะจิตกะหัวใจทำสงครามอีกแล้วเจ็บตายเป็นใบไม้ตก และก็ช็อตด้านหลังๆของภาพยนตร์เปิดเผยให้มองเห็นคนใดกันแน่คนนี้นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเฝ้าดูนาฬิกาตีบอกเวลาหยุดยิง (ซึ่งก็ซึ่งก็คือความปราชัยของเยอรมนี) โดยลำพัง

อย่างที่คนจำนวนไม่น้อยตั้งข้อคิดเห็น ขณะที่ Remaque แต่งนิยายเรื่อง ช่วงปลายทศวรรษที่ 1920 เขาไม่บางทีอาจล่วงรู้ได้ว่าการทำศึกที่ล่วงเลยเป็นเพียงภาคแรก รวมทั้งที่แน่นอนมันไม่ใช่ ‘war to end all wars’ หรือการรบที่ ‘เบ็ดเสร็จเด็ดขาด’ จากที่คนสมัยนั้นเชื่อและก็รู้เรื่อง ตรงกันข้าม มันบ่มเพาะตอนหน้าซึ่งกำลังจะออกเดินทางมาถึงในอีกไม่ช้าไม่นาน แล้วก็คนอย่างนายพล Friedrichs นี่แหละที่เป็นราวกับ ‘ผีที่ไม่ยินยอมตายในตอนสุดท้ายของหนังสยองขวัญ’

และก็แปลงเป็นเฟืองเคลื่อนให้การศึกรอบใหม่ปะทุขึ้น ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่ามันทำให้เกิดการสิ้นไปตลอดชาติแล้วก็เงินทองมากยิ่งกว่ารอบแรกอย่างไม่บางทีอาจเปรียบเทียบ บางเวลานี่บางทีอาจนับว่าเป็นความยุติธรรมของการถือวิสาสะต่อเติมเสริมแต่งเรื่องราวเดิมของคนสร้างภาพยนตร์ ทั้งยังการทิ้งด้านหลังในลักษณะดังกล่าวมาแล้วข้างต้นก็ยังเป็นดังการบอกโดยอ้อมว่า หายนะที่เกิดสังกัดสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเกิดเรื่องที่โทษคนใดกันแน่มิได้เว้นเสียแต่คนเยอรมนีร่วมกันเอง

แม้กระนั้นบอกอย่างแฟร์ๆตอนที่ภาพยนตร์ของ Berger นำนิยายของ Remarque มาดัดแปลงอย่างออกจะหละหลวม จนกระทั่งน่าสงสัยว่าหากคนเขียนยังมีชีวิตอยู่ เจ้าตัวจะโอเคกับความเคลื่อนไหวปรับปรุงแก้ไขมากมายน้อยเท่าใด ความเป็นจริงอีกด้านก็คือ ภาพยนตร์ฉบับปี 2022 ยังคงรักษาแก่นแกน ตลอดจนจิตวิญญาณของหนังสือไว้อย่างสมบูรณ์บริบูรณ์ ทั้งยังในมิติของการต้านการศึก รวมทั้งโดยยิ่งไปกว่านั้นการสะท้อนความเหลวไหลไม่มีสาระของการนองเลือด

ซึ่งคงจะทำให้ผู้ชมอ้ำอึ้งบอกผิดไปตามๆกัน สองฉากที่สะท้อนคุณสมบัตินี้อย่างน่าเศร้าเช่นเรื่องราวที่ Paul พบว่าทหารกองหนุนหกสิบคนซึ่งยังไม่ทันได้ลิ้มชิมรสชาติในสนามรบ ถูกตายกลุ่มเพียงแต่เนื่องจากพวกเขาถอดหน้ากากกันแก๊สพิษเร็วเกินความจำเป็น รวมทั้งอีกฉากที่เขาใช้มีดฟันแทงทหารประเทศฝรั่งเศสกึ่งกลางสนามรบที่ถูกทิ้งร้าง ก่อนที่จะสำนักไม่ถูกบาปจะเป็นตัวกระตุ้นกระตุ้นให้เจ้าตัวปรับแต่งไถ่คืนสิ่งที่ทำลงไป แม้ว่ามันสายเหลือเกินแล้ว

All Quiet On The Western Front (2022) แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

  • รวมๆแล้ว All Quiet on the Western Front

ได้ผลงานปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงที่พิถีพิถันละเอียดลออ ฉีกตนเองจากเวอร์ชันก่อนหน้าได้สวยงาม และก็ควรชนะรางวัลทั้งหลายแหล่ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง กระนั้นก็ตาม ไม่ว่าใครจะแซ่ซ้องสรเสริญภาพยนตร์ของ Berger เช่นไร เรื่องจริงที่ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ก็คือ นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ผู้ใดกันจะเปิดดูเล่นๆเพื่อการผ่อนคลาย มันเป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วอ่อนแรงแล้วก็บีบคั้น เพราะภาพ เสียง รวมทั้งรายละเอียดทำให้เกิดความปั่นป่วนทางอารมณ์อย่างเต็มที่บ้าจริงๆ

แต่ว่าก็อีกนั่นแหละ สิ่งที่มีความต้องการของการควรมีรวมทั้งจะต้องมองภาพยนตร์อย่าง All Quiet on the Western Front ก็เพราะว่าการศึกยังคงเป็นหมากบนบอร์ดและก็เกมที่อำนาจของชนชั้นหัวหน้า แล้วก็ผู้บรรเลงรรมพลีชีพเพื่อชาติอันสวยงามก็ลวงล่อให้แมลงเม่าบินไปพบความตายในกองไฟตลอดระยะเวลา บางเวลาประโยคหนึ่งที่บางทีอาจใช้สรุปหมายรวบยอดมาจากหนังเรื่อง ฉบับปี 1930 ที่ผู้แสดงนำของเรื่องผู้ซึ่งตาสว่างแล้ว บอกกับรุ่นน้องของเขาในห้องเรียนว่า “When it comes to dying for your country, it’s better not to die at all.” หรืออีกแง่หนึ่ง อย่าพากเพียรตายจากการเป็นเหยื่ออุดมการณ์รักชาติอย่างหน้ามืดตามัว

In 1917, three years into World War I, 17-year-old Paul Bäumer enthusiastically enlists in the Imperial German Army alongside friends Albert Kropp, Franz Müller, and Ludwig Behm. They listen to a patriotic speech by a school official and unknowingly receive uniforms from soldiers killed in a previous battle. After they are deployed in Northern France near La Malmaison, they are befriended by Stanislaus “Kat” Katczinsky, an older soldier. Their romantic view of the war is shattered by the realities of trench warfare on the Western Front, and Ludwig is killed by artillery on the first night.

On November 7, 1918, German State Secretary Matthias Erzberger, weary of mounting losses, meets with German High Command to persuade them to begin armistice talks with the Allied powers. Meanwhile, Paul and Kat steal a goose from a farm to share with Albert, Franz, and another veteran, Tjaden Stackfleet, with whom they have grown close behind the front in Champagne. Kat, who is illiterate, gets Paul to read him a letter from his wife and worries that he will be unable to reintegrate into peacetime society. Franz spends the night with a local French woman and brings back her scarf as a souvenir.

On November 9, Erzberger and the German delegation board a train bound for the Forest of Compiègne to negotiate a ceasefire. Paul and his friends go on a mission to find 60 missing recruits sent to reinforce their unit and discover that they were killed by gas after taking off their masks too soon. General Friedrichs, who opposes the armistice talks, orders an attack before French reinforcements arrive. That night, Erzberger’s delegation reaches the Forest of Compiègne, and Paul’s regiment is sent to the front to prepare to attack the French lines.

ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ หนังสงคราม HD ฟรี เรื่อง All Quiet On The Western Front (2022) แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง หนังประเภท War สงคราม หนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ หนังชนโรง หนังใหม่ หนัง2024 หนังอัพเดทใหม่ทุกวัน DooMovie ดูหนังฟรีระดับโรงภาพยนตร์ เชิญรับชมหนังภาพยนตร์ เรื่องนี้ได้เลย ดูหนังฟรี ดูหนังผ่านมือถือ ผ่านสมาร์ทโฟน แอนดรอย IOS สมาร์ทTV



Tags : All Quiet on the Western Front All Quiet On The Western Front แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

หนังที่เกี่ยวข้อง


  • D8
  • D14
  • ดูหนังออนไลน์ ดูหนังใหม่ชนโรงฟรี HD

    ดูหนังเต็มเรื่อง หนังมาสเตอร์ ดูหนังฟรี หนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ หนังชนโรง หนังใหม่ หนัง2023 ซีรี่ย์ดูฟรี หนังการ์ตูนอนิเมะ หนังมาสเตอร์ ดูหนังไม่กระตุก ดูหนังระดับ HD 4K Full HD หนังตลก หนังชีวิต หนังผจญภัย หนังบู๊ หนังจิตนาการ หนังลึกลับ หนังกีฬา หนังมากมาย หนังอัพเดทใหม่ทุกวัน DooMovie ดูหนังฟรีระดับโรงภาพยนตร์ ดูได้ทั้งในมือถือและสมาร์ททีวี

    อ่านต่อ

    เว็บไซต์ดูหนังฟรี หนังออนไลน์ มีหนังหลายประเภท หนังnetflix โรแมนติก วิทยาศาสตร์ กีฬา ตลก ระทึกขวัญ สงคราม อาชญากรรม ผจญภัย บู๊ การ์ตูน สารคดี ครอบครัว ประวัติศาสตร์ สยองขวัญ ลึกลับ หนังคาวบอยตะวันตก หนังเอเชีย หนังฝรั่ง หนังมากกว่าหมื่นเรื่อง ดูฟรีHD FullHD 4K