เรื่องล่าสุด
The Sandman (2022) เดอะแซนด์แมน EP.1-11 (จบ)
The Sandman (2022) เดอะแซนด์แมน
เรื่องย่อ
เรื่องราวเริ่มจากสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งของ Dreamดรีม หรือ มอร์เฟียส ราชาที่ความฝัน (สวมบทโดย ทอม สเตอร์ริดจ์) ที่ถูกกักขังโดย ร็อดเดอริก เบอร์เจสส์ นักเวทมือสมัครเล่น ที่ในตอนแรกตั้งมั่นจะเรียก Death เดธ เทวดาที่ความตาย มาเพื่อขอให้คืนชีวิตลูกชายที่เสียชีวิตจากการทำศึก แม้กระนั้นเกิดเหตุบกพร่อง ทำให้ดรีมปรากฎกาย รวมทั้งถูกลักขโมยโภคทรัพย์ล้ำค่าประจำตัวประกอบไปด้วย หน้ากาก ผงทราย รวมทั้งทับทิม ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกจองจำเอาไว้ในวงเวทมนตร์คาถา ไม่อาจจะหนีไปไหนได้ การหายไปของนักสร้างความฝันทำให้โลกกำเนิดความอลหม่านครั้งใหญ่
บางบุคคลหลับไม่ตื่น บางบุคคลหลับไม่ลง บางบุคคลละเมอขณะกำลังนอนหลับ The Sandman (2022) เดอะแซนด์แมน แต่ว่าเมื่อดรีมรอดพ้นจากการควบคุมขังที่นานกว่า 100 ปี เขาไม่รอคอยช้าออกตามล่าหาโภคทรัพย์ยอดเยี่ยมทั้งยังสามอย่าง แล้วก็เอาจริงเอาจังสร้างความฝันขึ้นมาอีกที กลางทางเขาต้องตามใส่ความฝันและก็ฝันร้ายที่หายไป ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากตัวละครจากจักรวาล DC Comics ว่าด้วยเรื่องราวของ มอร์เฟียส (ทอม สเตอร์ริดจ์) หรือ เทพแห่งความฝัน เขาเป็นราชาผู้ปกครองดินแดนแห่งความฝัน
อยู่มาวันหนึ่งเขาได้ถูกมนุษย์คนหนึ่งอัญเชิญไปยังโลกมนุษย์
เขาถูกขโมยของสำคัญไป 3 ชิ้น ได้แก่ ทับทิม หน้ากาก และทราย เขาถูกจับขังไว้ในโลกมนุษย์ ซึ่งผลกระทบจากการที่เขาไม่อยู่ในดินแดนแห่งความฝันก็คือ มีมนุษย์หลายล้านคนทั่วโลกไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ เพราะติดอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน มอร์เฟียสที่ไร้พลังเพราะถูกแย่งชิงของสำคัญไปจึงไม่สามารถหนีไปได้ เขาถูกขังยาวนานเกือบ 100 ปี กว่าที่จะหาโอกาสเหมาะหลบหนีออกมาได้ แต่เมื่อออกมาได้เขาก็ต้องออกไปตามหาของสำคัญ 3 ชิ้นของเขาคืน ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร เขาจะหาของสำคัญของเขาเจอหรือไม่ ทุกคนต้องไปดูด้วยตาตัวเอง The Sandman (เดอะ แซนด์แมน) มีทั้งหมด 10 ตอน รับชมได้แล้ววันนี้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflix
ลอร์ดมอร์เฟียส (Tom Sturridge จากซีรีส์เรื่อง ‘Irma Vep’ The Sandman (2022) เดอะแซนด์แมน และหนังเรื่อง ‘Far from the Madding Crowd’) หรือในชื่อหนึ่งว่า ดรีมออฟดิเอนด์เลส ปีศาจราชาแห่งความฝันที่ดันถูกจอมเวทย์มนุษย์อัญเชิญไปข่มขู่ให้ฟื้นคืนชีวิตลูกชาย ส่งผลต่อสมดุลของโลกในทันที หลายคนหลับใหลอยู่ในฝันไม่ได้ตื่นขึ้นมา ด้านจอมเวทย์นั้น เมื่อพบว่าเรียกมาผิดตัวจึงริบอุปกรณ์ของดรีมไว้ทั้งหมด
ก่อนภายหลังจะถูกขโมยออกมา หลังถูกจองจำอยู่ในห้องใต้ดิน
เนิ่นนานหลายสิบปี ในที่สุด ดรีมก็ออกมาจนได้ แต่ก็กลับพบว่าอาณาจักรแห่งความฝันสุดอลังการที่เคยสร้างไว้บัดนี้ทรุดโทรมจนรกร้างสมควรถูกบูรณะฟื้นฟู ทั้งยังเหลือเพียง ลูเซียนน์ (Vivienne Acheampong) บรรณารักษ์ที่ยังคงรอเขาอยู่เท่านั้น ส่วน โครินเธียน (Boyd Holbrook) ดูซีรีย์ออนไลน์ ฝันร้ายผู้คลั่งไคล้การฆ่าคนก็หนีไปแล้วกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของเขา
ผู้กำกับ
- Allan Heinberg
- David S. Goyer
- Neil Gaiman
- Mike Barker
บริษัท ค่ายหนัง
- Warner Bros. Television
- PurePop Inc.
- The Blank Corporation Phantom Four DC Entertainment
นักแสดง
- ทอม สเตอร์ริดจ์
- บอยด์ โฮลบรูค
- แพทตัน ออสวัลท์
- วิเวียน อาเคียมพอง
- เกวนโดลิน คริสตี้
- ชาร์ลส์ แดนซ์
- เจนน่า โคลแมน
- เดวิด ธิวลิส
- สตีเฟน ฟราย
- เคอร์บี ฮาเวลล์-แบปทีสต์
โปสเตอร์ซีรีย์
รีวิวหนัง
ละเลงหนัง
เรื่องนี้ให้ 8/10 คะแนน บอกก่อนเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะมีการสอดแทรกปรัญชาต่างๆ มาให้เราได้ขบคิดบ้างระหว่างทาง ทำให้บางคนอาจจะรู้สึกเบื่อได้ ซีรีส์เรื่องนี้เน้นเดินเรื่องไปแบบเรื่อยๆ ติดตามเรื่องราวการเดินทางของมอร์เฟียส ที่เริ่มจากการเป็นเทพที่ไม่สนอะไรนอกจากกฎระเบียบ พอเริ่มเข้าใจมนุษย์มากขึ้นเขาก็เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ บอกก่อนเลยว่าส่วนตัวผมค่อนข้างชอบซีรีส์เรื่องนี้พอสมควร บทเขียนมาค่อนข้างดีเลย มีหลายไดอะล็อกที่น่าขบคิดตามว่าแท้จริงแล้วเขาจะสื่ออะไร อย่างฉากการต่อสู้ของพระเอกกับลูซิเฟอร์ ก็เป็นอะไรที่ออกมาเกินความคาดหมายมาก คิดว่าจะต่อสู้กันแบบบู๊แหลก
แต่กลับกลายเป็นว่าสู้กันทางความคิดและโต้วาที ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉากนี้น่าจดจำ ในส่วนของการดำเนินเรื่อง ส่วนตัวผมมองว่าทำได้ดี วางปมท้ายตอนไว้น่าติดตามทุกตอน ทำให้รู้สึกอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนต่อไป รู้ตัวอีกทีก็คือรวดเเดียวจบไปแล้ว ฮ่าๆๆ ท้ายที่สุดคือด้านงานภาพและโปรดักชั่น งานภาพของเรื่องนี้ออกมาดีมากๆ ดูรู้เลยว่าตั้งใจทำกันมากจริงๆ มุมกล้องต่างๆ
รวมถึงงานซีจีที่ออกมานี่สวยงามมาก เกินความคาดหมายไปพอสมควรเลย
เพราะตอนแรกไม่คิดว่าจะทำงานซีจีออกมาละเอียดและสวยงามขนาดนี้ เพราะนี่เป็นซีรีส์ แต่กลับกลายเป็นว่างานที่ออกมามันสวยพอๆ กับหนังที่ฉายในโรงเลย ต่อมาด้านโปรดักชั่น ส่วนนี้ก็จัดเต็มเช่นเดียวกัน เสื้อผ้าหน้าผมนักแสดง โลเคชั่นฉากหลัง เพลงประกอบ การลำดับเสียง ทุกอย่างทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ในส่วนของงานภาพและโปรดักชั่นนี่ไม่มีอะไรจะติเลยจริงๆ สรุปโดยรวมคือ เป็นซีรีส์ที่ดีและสนุกเรื่องนึง โดยเฉพาะ 5 ตอนแรกนี่เนื้อเรื่องน่าติดตามมากๆ ส่วนตอนหลังๆ ที่เหลือนี่แล้วแต่คนชอบเลยจริงๆ ถ้าคนที่อยากดูซีรีส์สนุกตื่นเต้นเบาสมอง อาจจะไม่ค่อยชอบตอนท้ายๆ แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องไปดูและพิจารณากันเอง สุดท้ายนี้ผมขอให้คะแนนซีรีส์ The Sandman (เดอะ แซนด์แมน) ไว้ที่ 8/10 คะแนน
สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านนิยายหรือการ์ตูนเดอะแซนด์แมนมาก่อนอย่างผู้เขียน ก็ชอบซีรีส์ The Sandman อยู่นะ ชอบครึ่งทาง ชอบ EP1-4 และ EP.5 ตอนท้าย นอกนั้นก็รู้สึกว่าดูได้ แต่ไม่ได้อิน บางทีรู้สึกหนักอึ้งกับเนื้อเรื่องไม่น้อย ย่อยแทบไม่ทัน ดูรวดเดียว มีเหนื่อย คิดว่าถ้าค่อย ๆ ดู น่าจะสนุก เพราะแต่ละตอนเข้มข้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว น่าติดตาม เชื่อว่าคนที่เป็นแฟนนิยายน่าจะต้องถูกใจเวอร์ชั่นคนแสดง กับเนื้อหาที่เยอะ ละเอียดซับซ้อน
ตัวละครเพียบ เหตุการณ์เกิดในหลายสถานที่ ดูแล้วน่าจะเชื่อมโยงกับในหนังสือได้ดี ถึงจะได้ยินมาว่า ซีรีส์กับในหนังสือมีส่วนไม่เหมือนกันบ้างก็เถอะ ชอบ 1-5 ตอนแรกเรื่องการจองจำดรีม นักสร้างความฝัน ดูไปลุ้นไปว่าจะหลุดออกมาได้ไหม และช่วงที่ไปตามล่าหาสมบัติวิเศษของตัวเองช่วงนั้นก็รู้สึกสนุก อยากรู้จะทำสำเร็จไหม จะสามารถเอาชนะผู้ครอบครองสมบัติคนใหม่ได้หรือไม่ น่าติดตาม
ไหน ๆ เมื่อวานก็พูดถึงความอีโมของลอร์ดมอร์เฟียสแล้ว ขอรีวิวเลยแล้วกัน Tom Sturridge เป็นคนที่มี jawline ที่น่าสนใจดีหนิ ท่าทางการแสดงรวมไปถึงเสียงพูดนี่ถือว่าเป็นแคสที่เพอร์เฟคมากสำหรับบทนี้ ก็รู้สึกว่าดีแล้วแหละที่เค้าไม่ออกแบบตัวละครให้หน้าตาเหมือนในคอมิค พอมีรูปร่างเป็นมนุษย์แล้วเราแอบรู้สึก relate กับตัวละครนี้ได้มากขึ้น (ยังอ่านคอมิคไม่จบ) ก็สมศักดิ์ศรีในฐานะที่เป็นหนึ่งในงานเขียนที่ดัดแปลงยากนะ กว่ามันจะผ่านการเวลาจนได้มาเป็นซีรี่ส์ แล้วด้วยลำดับเนื้อเรื่อง วิช่วลที่ดูดีกว่างานดัดแปลงเรื่องอื่น ๆ ของน้านีล(รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ของเน็ตฟลิกซ์)แล้วก็รู้สึกว่าการรอคอยมันก็คุ้มค่าจริง ๆ
Em Thongnimit
The Sandman 2022 Netflix ไม่ใช่ซีรีส์ที่ทุกคนจะชอบ แต่ส่วนตัวคือชอบนะ ถึงตอนท้ายๆมันจะดรอปไปบ้าง ในแง่ของการเล่าเรื่องที่ชวนง่วง แต่โดยรวมมันคือซีรีส์ที่ดีเรื่องนึงของปีนี้เลย ชอบการตีความ Lucifer, Constantine ส่วนตัวไม่มีปัญหาเลยกับการตีความของซีรีส์ คิดว่าดีนะ ได้ความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำซากจำเจ เอาจริงอยากให้มี Spin-off สองตัวละครนี้มาก
ส่วนตอนที่ชอบมากๆคือตอน 4 5 6 คือดูต่อเนื่องยาวๆเลยช่วง 3 ตอนนี้ และชอบที่สุดยกให้ตอน 5 ตอนที่ชื่อว่า 24/7 เทคนิคต่างๆ ลูกล่อลูกชนของตอนนี้ แม่งสุดยอด สุดจริงๆ
ซีรีส์จาก Netflix มี 10 ตอน (ร่วมด้วยช่วยกันกับ Warner) หลังจากหยุดให้อิ่มไปกับตอนที่ 6 เพราะเห็นหลายกระแสบอกไว้ว่า 7 – 10 ยังกะคนละเรื่อง แต่พอได้ดูเข้าจริง ๆ
มันก็สนุกดีนี่หว่า 555 ถ้าเป็นแบบนั้น สรุปว่า The Sandman เป็นซีรีส์หมัดเด็ดจาก Netflix ที่ทำได้ดีมาก ๆ ชอบมาก
คือถ้ามองในสังเวียนนะ Prime Video มาแรงกับ The Boys
นี่ยังไม่นับ The Rings of Power กำลังจะมาอีก ฝั่ง HBO ก็เตรียมเข็น House of the Dragon ออกมา ฝั่ง Disney+hotstar ก็เริ่มขนของมาเรื่อย ๆ จะมี Netflix นี่ละ ที่มาปล่อยหมัดเด็ดจาก The Sandman เรื่องวุ่น ๆ ของเหล่าพี่น้องทะเลาะกัน มนุษย์อย่างเรา ๆ ก็ซวยซีครับ 555 แคสติ้งนักแสดงดีนะ ทอม เสตอร์ริดจ์ น่าจะมีงานอื่น ๆ รออีกเยอะแหละ โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าจะทำตอนต่อไปก็ได้ แต่เอาเข้าจริงมันก็จบในตัวไปแล้วนะ 10 ตอน เพลิน ๆ จัดไปครับ
หนึ่งดวงดาวพันพริบพราววาวระยับ
เด็กอีโม อายุก็ เอ่อ นิ้วไม่พอนับ หนึ่งในครอบครัว The Endless ขี้เก๊กไปหน่อย แต่ก็หล่อ แก่พอ ๆ กับโลก แต่ดูเหมือนเด็ก 3 ขวบ ป้ำ ๆ เป๋อ ๆ อ่อนต่อโลกยังกับลูกคุณหนูหนีออกจากบ้าน แล้วไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลย 10 ตอน โดยรวมสนุกนะแต่ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกคน บางคนก็ชอบแบบนี้ บางคนดูก็อาจจะรำคาญ ไม่หือ ไม่อือสักที ดูไปหลับไป สมกับเป็นเทพแห่งฟามฝัน ไม่มีวันมีฟามรักกันไม่ได้ แต่แอดชอบนะ ให้ 9/10 เลย มันดูแนว ๆ หม่น ๆ ดี แต่ภาพสวยดูง่ายนะ ไม่ได้ซับซ้อน ตีความปีนบันไดดูถึงจะเข้าใจ
ชอบคาแรคเตอร์หลายตัวเลย ส่วนตัวบางทีก็แอบรำคาญเนตฟลิกซ์อ่ะ จะ Woke อะไรนักหนา โว้กจนโว๊ะเบื่อหน่าย แต่พอดูไปแล้วเออ ตัวละครที่เขาเปลี่ยน เพื่อให้เกิดความหลากหลาย
หรือตีความไปอีกรูปแบบหนึ่ง มันไม่ได้ออกมาแย่อ่ะ แถมยังเทห์อีกต่างหาก ดูได้นะ สนุกเลยถ้าเปิดใจ แอดเชียร์ Netflix เจ้าเก่าจ้ะ 👌
ดูทีแรกเพราะนึกว่าจะเป็นแนวๆ สู้กันด้วยพลังเหนือธรรมชาติไรงี้ ดูจริงแล้วไม่ใช่เลย มันก็ยังคงมีภาพแฟนตาซีตระการตาแบบหนังเมนสตรีมทั่วไปนะแต่เนื้อหาคือเรื่องความเป็นมนุษย์และธรรมชาติของเราที่เล่าได้อย่างละเมียดมากแอบดาร์กหน่อยๆ เรื่องย่อคือ มอร์เฟียสหรือความฝันโดนมนุษย์คนนึงกักขังไว้ร่วมศตวรรษทำให้ผู้คนมากมายหลับไปตื่น วันนึงมอร์เฟียสหลุดออกมาได้เขาจึงออกตามหาของ 3 ชิ้นที่โดนโขมยไปและกอบกู้อาณาจักรแห่งความฝันเพื่อช่วยมนุษยชาติ
ชอบการต่อสู้ของมอร์เฟียสกับเจ้าแห่งนรกลูซิเฟอร์แม่งอย่างเหนือ นึกว่าจะยิงพลังกันยับไรงี้ ไม่ใช่เลยล้ำลึกกว่านั้นเยอะ กับตอนที่ไปเดินเล่นกับเดธที่ทำงานเก็บเกี่ยววิญญาณคนตายไปด้วยช่างชิลแท้ เรียกว่ามันเป็นหนังที่มีซีนไม่ซ้ำซากที่ดีมาก และแน่นนอนว่าเป็นเน็ตฟลิกซ์ มันจึงอุดมไปด้วยความโวกแบบโคตรยัด ตอนดูก็ทำลืมๆ มองข้ามไปละกัน 😆 ดูแต่เนื้อหาใจความของหนังที่ดีมากก็พอ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
400 days (2015) ภารกิจลับมฤตยูใต้โลก
Butchers Book Two Raghorn (2024)
Tags : The Sandman The Sandman เดอะแซนด์แมน ซีรี่ย์ Action บู๊ ซีรี่ย์ Adventure ผจญภัย เดอะแซนด์แมน