เรื่องล่าสุด
The Lighthorsemen (1987) เกียรติยศอาชาเหล็ก
DOOMOVIE ดูหนังออนไลน์ The Lighthorsemen (1987)
DOOMOVIE ดูหนังออนไลน์ The Lighthorsemen (1987) เกียรติยศอาชาเหล็ก ปาเลสไตน์ พ.ศ. 2460 การรุกคืบของอังกฤษถูกขัดขวางโดยสายตุรกีที่วิ่งจากฉนวนกาซาไปยังเบียร์เชบา การโจมตีฉนวนกาซาครั้งล่าสุดล้มเหลว กองกำลังโจมตีประกอบด้วยกองทหารราบขี่ม้าของออสเตรเลีย ม้าแสง… พลม้าเบา แฟรงก์ได้รับบาดเจ็บในการปะทะกับเบดูอิน เขาถูกแทนที่ด้วยทหารหนุ่ม เดฟ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นรอยร้าว
แต่ไม่เต็มใจที่จะยิงใส่ศัตรู เดฟพิสูจน์ตัวเองระหว่างการโจมตีด้วยเครื่องบินปีกสองชั้นของเยอรมัน ขณะพักฟื้นในโรงพยาบาล เขาได้พบกับนางพยาบาลผู้เห็นอกเห็นใจ แอนน์… กองทหารถูกเรียกร้องให้โจมตีด้านข้างเบียร์ชีบาอย่างกล้าหาญ แต่คุณจะทำให้ชาวเติร์กเชื่อได้อย่างไรว่าการโจมตีหลักจะมาที่ฉนวนกาซา และคุณจะโจมตีข้ามทะเลทรายโดยไม่มีน้ำได้อย่างไร?
The Lighthorsemen (1987) เป็นภาพยนตร์การศึกของประเทศออสเตรเลียปี 1987 เกี่ยวกับคนของหน่วยม้าค่อยในสงครามโลกครั้งที่ 1
ที่เกี่ยวพันกับแคมเปญ Sinai แล้วก็ปาเลสไตน์ในปี 1917 Battle of Beersheeba ภาพยนตร์ประเด็นนี้ผลิตขึ้นมาจากความเป็นจริงรวมทั้งนักแสดงส่วนมากในรูปภาพยนตร์หัวข้อนี้ผลิตจากคนจริง (เอลีน ไม่ทเชลล์ เขียนบทนิยายจากบทภาพยนตร์)
ตามมาภายหลังภาพยนตร์การทำศึกคลื่นลูกใหม่ของประเทศออสเตรเลียเรื่องอื่นๆยกตัวอย่างเช่น Breaker Morant (1980), Gallipoli (1981) แล้วก็ซีรีส์ทีวี 5 ตอน Anzacs (1985) ธีมที่เกิดขึ้นเสมอๆของภาพยนตร์พวกนี้ ดังเช่นว่า อัตลักษณ์ของประเทศออสเตรเลีย อาทิเช่น มิตรภาพรวมทั้งลัทธิลาร์ริกิน การสูญเสียความบริสุทธิ์ในการศึก แล้วก็การเจริญรุ่งเรืองโดยตลอดของออสเตรเลียแล้วก็ทหาร (จิตวิญญาณที่ Anzac)
ภาพยนตร์หัวข้อนี้ดูแลโดยไซมอน วินซ์เซอร์ และก็ฟุตเทจจำนวนไม่น้อยจากฉากสำคัญถูกประยุกต์ใช้ซ้ำในตอน “ปาเลสไตน์ ต.ค. พุทธศักราช 2460” ของซีรีส์ทีวีเรื่อง The Young Indiana Jones Chronicles ในเวลานี้ซึ่งกระจายเสียงในปี 1993 ก็เน้นย้ำไปที่ Battle of Beersheeba แล้วก็ควบคุมโดย Wincer เช่นเดียวกัน
ในปี 1917 ทหารม้าประเทศออสเตรเลียในสงครามโลกครั้งที่ 1 สี่นาย เช่น แฟรงค์ สก็อตตี้ ชิลเลอร์ และก็ข้ารับใช้ ปฏิบัติงานในปาเลสไตน์โดยเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของกองทหารม้าค่อยที่ 4 ซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งของกองกำลังอังกฤษและก็สมาพันธรัฐ เมื่อแฟรงก์เสียชีวิต เดฟก็เข้ามาแทนที่เขา เดฟพบว่าตนเองไม่อาจจะยิงอาวุธสำหรับในการต่อสู้ได้ และก็ถูกย้ายไปที่ Medical Corps ซึ่งเขาไม่จำเป็นที่จะต้องนำพาอาวุธ แม้กระนั้นจะยังจะต้องพบเจอกับการต่อสู้
อังกฤษคิดแผนยึดเบียร์สดเชบา ในระหว่างการจู่โจมโดยทหารม้าประเทศตุรกี พันตรีริชาร์ด ไมเนิร์ตซาเกนเจตนาทิ้งเอกสารที่กล่าวว่าการจู่โจมเบียร์สดชีบาเป็นเพียงแค่การเอนเอียงความพอใจเพียงแค่นั้น คนออสเตรเลียเริ่มเดินทางสู่เบียร์สดเชบาโดยมีน้ำรวมทั้งเสบียงกรังมีจำกัด พวกเขาทิ้งระเบิดในเมืองรวมทั้งแนวรับประเทศตุรกี-เยอรมัน 4,000 คนจัดเตรียมสำหรับเพื่อการจู่โจม
แม้กระนั้น Reichert ที่ปรึกษาทางการทหารของเยอรมนี มั่นใจว่าเป็นการจู่โจมแบบเบี่ยงเบนความพึงพอใจ รวมทั้งชี้แนะผู้บังคับบัญชาประเทศตุรกีว่าเขาไม่อยากกำลังเสริม เมื่อเวลาหมดลงรวมทั้งมีน้ำไม่พอ ผู้บังคับบัญชาอังกฤษก็เลยสงสัยว่าการจู่โจมเบียร์สดเชบาบางทีก็อาจจะล้มเหลว ผู้บังคับบัญชาคนออสเตรเลียขอให้อังกฤษส่งม้าค่อยประเทศออสเตรเลียเข้ามา อังกฤษยอมสิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าเป็นภารกิจฆ่าตัวตาย
-
ในวันที่ 31 ต.ค. กองทหารม้าค่อยที่ 4 รวมทั้ง 12 ได้รับคำบัญชาให้จู่โจมพวกเติร์ก
เดฟแล้วก็หน่วยหมอคนอื่นเตรียมการรับคนตาย แล้วก็ได้รับคำบัญชาให้อยู่ข้างหลังม้าค่อย พวกเติร์กรายงานว่ามีทหารขี่ม้าของประเทศออสเตรเลียตั้งแถวเพื่อเข้าจู่โจม แต่ว่าข้าราชการที่รับผิดชอบสั่งไม่ให้พวกเติร์กเริ่มยิงจวบจนกระทั่งพวกเขาจะลงจากข้างหลังม้า เพราะเหตุว่าเขาใส่ใจว่าพวกเขาเป็นม้าค่อย ขี่เพื่อความคล่องตัว แต่ว่ามิได้รับการฝึกฝนหรือวัสดุอุปกรณ์ในการต่อสู้ด้วยทหารม้าอย่างแท้จริง
คนออสเตรเลียบุกไปยึดตำแหน่งประเทศตุรกีแล้วก็เบาๆรีบขึ้นสู่การบุกจู่โจม พวกเติร์กรู้ตัวช้าเหลือเกินว่าทหารไม่ลงจากข้างหลังม้าและก็เริ่มยิง การยิงด้วยปืนใหญ่เป็นช่วงๆแล้วก็ส่งผลจำกัด รวมทั้งการจู่โจมนั้นเร็วมากจนถึงพลเดินเท้าประเทศตุรกีลืมปรับระยะการมองมองเห็นของปืนไรเฟิล ซึ่งทำให้พวกมันยิงไปที่ศีรษะของคนออสเตรเลีย
ในระหว่างการตั้งข้อกล่าวหา Tas ถูกฆ่าด้วยลูกกระสุนใหญ่ คนออสเตรเลียรุกคืบได้เร็วกว่าปืนใหญ่ของประเทศตุรกีซึ่งสามารถปรับแก้การเล็งในระยะไกลและก็เข้าถึงสนามเพลาะของประเทศตุรกีได้ คนออสเตรเลียยึดแนวปกป้องแนวแรกของประเทศตุรกี สก็อตตีแล้วก็อีกสองสามคนเข้าควบคุมปืน ชิลเลอร์ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ในสนามเพลาะ เดฟถูกระเบิดรวมทั้งได้รับบาดเจ็บร้ายแรงในช่วงเวลาที่เขาคุ้มครองปกป้องชิลเลอร์ สกอตติเตียนชยังคงต่อสู้ถัดไปในเมือง
เมื่อทหารประเทศตุรกีที่เหลือส่วนมากยอมรับความพ่ายแพ้ Reichert อุตสาหะทำลายหนองน้ำ แต่ว่าถูก Scotty จับกุมไป การจู่โจมดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วจัดว่าบรรลุผลสำเร็จ โดยคนออสเตรเลียมีคนเสียชีวิตเพียงแค่ 31 ราย และก็เจ็บ 36 ราย
การจู่โจมเบียร์สดเชบาที่ประสบผลสำเร็จทำให้สามารถยึดกรุงเยรูซาเลมและก็ปาเลสไตน์ที่เหลือได้ในเวลาถัดมา เพื่อเป็นการแสดงความยำเกรงต่อสถานะของเยรูซาเลมในฐานะนครศักดิ์สิทธิ์ ผู้บังคับบัญชาผู้ดีอังกฤษ นายพลอัลเลนบี เดินเข้าไปในเมืองในฐานะผู้ปล่อย แทนที่จะให้ผู้ชนะเข้ามาอย่างมีชัย
ถือได้ว่าเป็นการจบปีลำดับที่สามของมหาการทำศึก กองกำลังประเทศออสเตรเลียกำลังทำสงครามในประเทศฝรั่งเศสรวมทั้งตะวันออกกลาง เป็นเวลานานกว่าสองปีภายหลังการยกทัพขึ้นบกที่กัลลิโปลี ในอียิปต์และก็ปาเลสไตน์ ทหารชายหนุ่มของกองทหารม้าค่อยที่ประเทศออสเตรเลียที่ 4 ขมีขมันที่จะพิสูจน์ตนเอง แต่ว่าก็รำคาญด้วยเหตุว่าไม่ทำอะไรเลย
ผู้บังคับบัญชากองกำลังติดทะเลทรายที่ประเทศออสเตรเลีย พลโท เซอร์แฮร์รี่ ชอเวล ถูกกีดขวางโดยผู้บัญชาการคนประเทศอังกฤษของเขา ซึ่งล้มเหลวสำหรับในการยึดฐานปฏิบัติการของประเทศตุรกีในฉนวนกาซา Australian Light Horse เที่ยวตรวจในทะเลทราย ทำลายทางรถไฟของศัตรู แล้วก็ต่อสู้กับผู้ช่วยเหลือชาวเบดูอิน พวก Light Horse ต่อสู้กันเป็นหน่วยสี่คน และก็มีความสนิทสนมกันมากมาย
-
เมื่อทหารม้าแฟรงก์ (เอ็งปรี่ สวีต) ได้รับบาดเจ็บจากลูกกระสุนปืนชาวเบดูอิน เดฟ (ปีเตอร์ เฟลป์ส)
ที่เป็นทหารเกณฑ์คนใหม่ที่เข้ามาแทนที่เขา เขาร่วมกับทหารมากมายประสบการณ์สามคน เป็นต้นว่า ข้ารับใช้ (จอห์น วอลตัน), ชิลเลอร์ (ทิม แม็คเคนซี) แล้วก็ชาวไอริชชื่อสก็อตตี้ (จอน เบลค) เดฟเอาชนะความเกลียดของพวกเขาด้วยการยืนยันว่าเขาสามารถขี่ได้ดิบได้ดีแล้วก็ยิงตรงได้ แม้กระนั้นเขารู้สึกตระหนกตกใจอย่างสิ้นเชิงกับความประพฤติหนแรกของเขา โน่นเป็นการซุ่มจู่โจมเสาม้าที่ประเทศตุรกี
เขาไม่สามารถที่จะยิงได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นกับเพศชายที่กำลังถอนทัพกลับ เดฟได้รับบาดเจ็บน้อยระหว่างการจู่โจมโดยเรือบินเยอรมัน แม้กระนั้นเขาช่วยม้าอีกทั้งสี่ตัวจากหน่วยของเขาได้ ในโรงหมอ เขาหลงเสน่ห์พยาบาล แอนน์ (ซิกข์ริด ธอร์นตัน) โดยบอกคุณว่าเขากลัวว่าเขาเป็นคนขลาด เมื่อกลับมาที่หน่วย สหายๆของเขาหนักใจว่าเขายังคงไม่สามารถที่จะยิงปืนด้วยความโกรธเคืองได้ เดฟย้ายไปหน่วยรถพยาบาลอย่างไม่เต็มใจ
ภายหลังจากการมาถึงของนายพลอัลเลนบีในฐานะผู้บังคับบัญชาคนใหม่ของอังกฤษ พลโทโชเวล (ใบเสร็จรับเงิน เคอร์) ก็เลยเริ่มมีหน้าที่สำหรับในการรุกต่อพวกเติร์กเยอะขึ้นเรื่อยๆ จุดหมายเป็นยึดเอาเบียร์สดเชบาเป็นโหมโรงสำหรับการจู่โจมฉนวนกาซา ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือน้ำ ม้าประเทศออสเตรเลียจึงควรขาดน้ำตรงเวลา 30 ชั่วโมง และก็ถ้าการจู่โจมล้มเหลว ม้าบางทีอาจตายในทะเลทราย
ข้าราชการข่าวกรองชายหนุ่มคนประเทศอังกฤษคิดแผนลวงศัตรู พันตรีไมเนิร์ตซาเกน (แอนโทนี่ แอนดรูว์ส) วางแผนจู่โจมที่สมมุติขึ้นเพื่อหว่านล้อมชาวเติร์กว่าการจู่โจมเบียร์สดชีบาเป็นเพียงแต่การเอนเอียงความพอใจแค่นั้น ในทางตรงกันข้าม ทหาร 60,000 นายโจมตีเมืองเล็กๆนี้ โดยเริ่มด้วยการจู่โจมด้วยปืนใหญ่ของอังกฤษอย่างมากในเวลาเช้าของวันที่ 31 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2460 เมื่อหมดวัน การจู่โจมก็บรรลุความสำเร็จบ้าง แต่ว่าเวลาก็หมดลง จำต้องยึดเมืองและก็หนองน้ำเพื่อม้าได้ลงน้ำ
Chauvel เห็นด้วยกับเป้าหมายที่ห่อเหี่ยว: กองทหารสองกองของหน่วย Light Horse Bde ที่ 4 ที่ 4 รวมทั้งที่ 12 จะบุกจู่โจมพื้นที่เปิดโล่งเตียนสามกม.สำหรับการจู่โจมแนวหน้าในสนามเพลาะของประเทศตุรกีเพื่อต้านปืนใหญ่แล้วก็ปืนกล การจู่โจมเริ่มขึ้นในตอนบ่าย โดยมีม้า 500 ตัวพุ่งเข้าจู่โจมตำแหน่งของศัตรู เมื่อเทียบกับช่องทางทั้งปวง การจู่โจมก็เสร็จ คนออสเตรเลียเข้ายึดเมืองโดยมีคนเสียชีวิตเพียงนิดหน่อย Tas ถูกฆ่าระหว่างการตั้งข้อกล่าวหา และก็ Dave ได้รับบาดเจ็บรุนแรง พากเพียรคุ้มครองปกป้อง Chiller จากระเบิดมือ ที่โรงหมอทหาร El Arish เดฟได้เจอกับแอนน์อีกรอบ
If “The Lighthorsemen” had been an American film, it would have been shot 40 years ago and directed by John Ford, and it would have starred Henry Fonda, James Stewart or John Wayne. It has the same kind of feeling and energy as Ford’s historical Westerns, which glorified the U.S. Cavalry in thundering horse charges, and then cut to Army politics back at Fort Apache. But “ The Lighthorsemen ” is an Australian film, sort of a companion piece to “Gallipoli,” and equally proud and chauvinistic.
It takes place during World War I, in the deserts of the Middle East, where an Australian light horse detachment, 800 strong, was stationed to join British troops on the front against Germans and Turks. The story is quickly summarized: Everything depends on the capture of Beersheba, which is held by the enemy along with its precious wells of fresh water. And the lighthorsemen do, of course, capture Beersheba.
That’s the story. The rest of the movie is atmosphere, action and horses – lots of horses, wonderful horses, good-looking, high-spirited horses who star, finally, in one of the most thrilling cavalry charges ever filmed. The horses are so photogenic that the human actors hardly have a chance against them, especially considering that all of their dialogue has been heard countless times before in countless earlier movies, some of them no doubt actually directed by Ford.
We meet a four-man regiment of Australian lighthorsemen (following one of them, of course, all the way from the day he enlists as a greenhorn kid from the outback), and we get to know them, although not very well, because this movie is not a psychological drama.
We witness several standard scenes, which include the usual military briefings, inspections of maps and moments when generals look at the horizon with field glasses. And we get the obligatory scenes in which characters explain the situation to each other, so that we can understand it, too. The only time this worked was when an elderly general (Bill Ware) explained why he wanted to take Beersheba, and how.
Unfortunately, despite all of the other briefings and countless subtitles identying various general’s headquarters, I was disoriented almost all the way through the movie. The only really lucid battle scene was the last one, in which Beersheba was over there and the lighthorsemen were over here, and then they attacked.
It’s easy to ridicule old U.S. Cavalry potboilers, but at least they were simpleminded and dogged enough in their storytelling that you always knew what was happening. “The Lighthorsemen” could actually use a few more cliches; as it is, the only one we get is the obligatory scene where the young soldier is wounded and evacuated to a field hospital, where he falls in love with the nurse.
The film’s final cavalry charge redeems a lot, however. It comes as the German and Turkish commanders squabble over plans to blow up the water wells to keep them out of Allied hands. And it is a humdinger, a daring, flat-out, no-holds-barred charge across the desert and under the range of of the enemy cannon. I haven’t seen a better action scene with horses since “Ben Hur.” Whether it’s worth the price of admission depends, of course, on how much you like horses.
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ หนังสงคราม HD ฟรี เรื่อง The Lighthorsemen (1987) เกียรติยศอาชาเหล็ก หนังประเภท War สงคราม หนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ หนังชนโรง หนังใหม่ หนัง2024 หนังอัพเดทใหม่ทุกวัน DooMovie ดูหนังฟรีระดับโรงภาพยนตร์ เชิญรับชมหนังภาพยนตร์ เรื่องนี้ได้เลย ดูหนังฟรี ดูหนังผ่านมือถือ ผ่านสมาร์ทโฟน แอนดรอย IOS สมาร์ทTV
Tags : The Lighthorsemen The Lighthorsemen เกียรติยศอาชาเหล็ก เกียรติยศอาชาเหล็ก