เสียง : พากย์ไทย

7.6/10

Painkiller (2023)  เพนคิลเลอร์ ซีรีส์ดราม่าเรื่องนี้เผยต้นเหตุและผลกระทบจากการแพร่ระบาด

Painkiller (2023) ของสารเสพติดกลุ่มโอปิออยด์ในอเมริกา โดยติดตามเรื่องราวของบรรดาผู้กระทำผิด เหยื่อ และผู้สืบสวนหาความจริง

ยาแก้ปวดเผยให้เห็นถึงต้นตอของการแพร่ระบาดด้านสุขภาพที่เร่งด่วนที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21 ยาแก้ปวดยาเสพติดที่มีฤทธิ์รุนแรงหรือฝิ่น เคยถูกใช้เป็นยาทางเลือกสุดท้ายสำหรับผู้ที่เจ็บปวด Purdue เปลี่ยน OxyContin ให้เป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่

มีมูลค่านับพันล้านดอลลาร์ด้วยการเปิดตัวแคมเปญการตลาดที่ไม่เคยมี  Painkiller (2023)  มาก่อนโดยอ้างว่าสูตรที่ออกฤทธิ์ยาวนานของยาทำให้ปลอดภัยกว่าการใช้ยาแก้ปวดแบบดั้งเดิมสำหรับความเจ็บปวดหลายประเภท ภาพลวงตานั้นพังทลายลงอย่างรวดเร็วเมื่อผู้เสพยาได้เรียนรู้ว่าการบด Oxy สามารถปลดปล่อยสารเสพติดทั้งหมดได้ในคราวเดียว

แม้จะอยู่ในรูปแบบที่กำหนด Oxy ก็ยังเสพติดอย่างดุเดือด เมื่อการใช้ OxyContin และการละเมิดเพิ่มมากขึ้น Purdue ก็ปกปิดสิ่งที่รู้จากหน่วยงานกำกับดูแล แพทย์ และผู้ป่วยแค่ได้เห็นชื่อทีมนักแสดงและทีมผู้สร้างก็สามารถกระตุ้นต่อมความน่าสนใจได้ดีเลยทีเดียว

นี่คือ “The Killer นักฆ่า” หนังอาชญากรรมที่เต็มไปด้วยลีลาและสไตล์ ที่มีศักยภาพที่จะกลายเป็นหนังแอคชัน

ที่ออกโรงไปต่อกรกับหนังดรามาเรื่องอื่น ๆ บนเวทีรางวัลได้อย่างสมศักดิ์ศรี กับวังวนของโลกนักฆ่าที่แสนเหงาและโดดเดี่ยว แต่ภารกิจที่ต้องแบกรับทำให้เขาต้องไม่รู้จักการยึดติดใด ๆ

The Killer นักฆ่า เป็นเรื่องราวของชายผู้โดดเดี่ยวและแสนเย็นชา Painkiller (2023) ที่มีระเบียบวินัยเป็นอุปนิสัยหลักและไม่ยึดติดภาระผูกพันใด ๆ จากเศร้าโศกและไร้ศีลธรรม เขาเป็นนักฆ่าที่มักจะแอบซ่อนอยู่ในเงามืด เฝ้าดูเป้าหมายต่อไปของตัวเอง แต่ยิ่งเขารอนานมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็คิดว่าตัวเองกำลังจะเสียสติมากยิ่งขึ้นเท่านั้น และมันเกิดเป็นความผิดพลาด ดังนั้นมันจึงมาถึงจุดแตกหักที่ทำให้เขาเปิดศึกกับผู้ว่าจ้าง พร้อมกับยืนกรานว่ามันไม่ใช่ความแค้นส่วนตัวแต่อย่างใด

ผู้กำกับที่เข้าชิงออสการ์มาถึง 3 ครั้ง อย่าง “เดวิด ฟินเชอร์” กลับมาวาดลวดลายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อีกครั้ง

ถือว่าเป็นผลงานหนังใหญ่ในรอบ 3 ปีเต็มของเขา Painkiller (2023) และเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่เขาอยากจะทำมากที่สุดอีกเรื่องในชีวิตของเขาด้วย ทั้งลีลาและสไตล์ที่ถ่ายทอดออกมาถือว่าไว้วางใจได้เลย เขาถนัดในการสร้างงานอาร์ตที่แสนคมคาย ด้วยการจดจ่อในสมาธิและสร้างบรรยากาศได้อย่างแยบยลThe Killer

สร้างมาจากนิยายภาพเล่มดังของ ลุค จากามอน และ อเล็กซิส โนเลนท์ ที่เป็นหนังสือที่ เดวิด ฟินเชอร์ ใฝ่ฝันอยากจะหยิบเอามาสร้างเป็นหนัง ตั้งแต่ที่เขาได้รู้จักเมื่อราว ๆ 20 ปีที่แล้ว แต่ปรากฏว่าโปรเจกต์นี้ต้องใช้ความพยายามอย่างสูง เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะเสนองานให้สตูดิโอหนังอนุมัติได้ แต่ในที่สุดมันก็ได้รับไฟเขียวให้สร้าง เมื่อโลกได้อ้าแขนต้อนรับโลกสตรีมมิงเข้ามา

“แอนดรูว์ เควิน วอล์คเกอร์” นักเขียนบทคู่บุญของเดวิด ที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่เรื่อง Se7en ก็กลับมาดัดแปลงเขียนบทหนังเรื่องนี้ให้ กลายออกมาเป็นหนังแอคชันนักฆ่าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่คมคาย ในขณะที่ตลาดหนังปัจจุบันเต็มไปด้วยหนังแอคชันดีเดือด

สาดกระสุนกันแบบไม่ยั้ง ลองปรับโหมดดูหนังนักฆ่าในมุมยั้งลึกจิตใต้สำนึกดูบ้างก็เหมาะเจาะดี

The Killer อาจจะไม่ใช่หนังนักฆ่าที่คอหนังทั่วไปปรารถนาและคาดหวังที่จะได้ชม เพราะตัวหนังไม่ได้ยัดฉากบู๊ต่าง ๆ เข้ามาอย่างขวนขวาย แต่เลือกที่จะนำเสนอออกมาอย่างมีชั้นเชิง แสนคมคาย และสอดแทรกประเด็น Painkiller (2023) ที่ทำให้คนดูชวนคิดวิเคราะห์ตามอยู่ตลอดเวลา ผ่านมุมมองของตัวละครหลักที่เป็นนักฆ่า แม้จะเย็นชาแต่มีเลือดเนื้อและจิตใจ

แน่นอนว่านี่คือหนังบู๊ที่เต็มไปด้วยคำพูดมากกว่าฉากบู๊ แต่เมื่อนำเอา 2 องค์ประกอบเข้ามารวมกันก็กลั่นกรองออกมาเป็นเต็มไปด้วยอรรถรสและสไตล์ที่เจ๋งชะมัด การแสดงของ “ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์” คือเอาอยู่ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ฉากแรกจนไปถึงฉากสุดท้าย เนี่ยแหละทักษะอันแสนดีงามของดาราที่เข้ามีชื่อเข้าชิงออสการ์มาถึง 2 ครั้ง 2 คราแล้ว

ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ กับแอคติ้งที่เรียบเชียบ เหมาะกับคาแรกเตอร์นักฆ่าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา

และความเหงาเป็นอย่างดี นี่อาจจะไม่ใช่บทบาทที่ยากเย็นอะไรสักเท่าไหร่สำหรับเขา และเขาก็สามารถทำมันออกมาได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่าเขาจะเป็นตัวยืนโรงเป็นหลักของหนังเรื่องนี้ แต่หนังก็ยังมีตัวละครสมทบที่น่าตื่นตา โผล่ออกมาให้ได้ประทับใจเรื่อย ๆ ตลอดความยาว 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้

ดังนั้น The Killer นักฆ่า จึงกลายเป็นหนังนักฆ่าที่เต็มไป Painkiller (2023) ด้วยรายละเอียดและอารมณ์ทางศิลป์แบบแยบยล นี่ไม่ใช่หนังบู๊อาชญากรรมแบบหนังในกระแสทั่วไป แต่มันเต็มไปด้วยกิมมิกและชั้นเชิงในการร้อยเรียงเรื่องราวออกมาได้ชวนคิดและติดตาม เป็นหนังที่ยังเต็มไปด้วยลายเซ็นอันชัดเจนของ เดวิด ฟินเชอร์ ทั้งการดีไซน์เรื่องราว ออกแบบตัวละคร และอรรถรสที่ใส่เข้ามาตลอดทั้งเรื่อง

เชื่อว่านี่อาจจะไม่ใช่หนังเรื่องโปรดของทุกคน เพราะไม่ใช่หนังตลาดโดยทั่วไป มันน่าจะมีทั้งคนชอบและคนที่

ไม่ชอบปะปนกันไป คือถ้าไม่เอ็นจอยกับมัน ก็น่าจะเบื่อหน่ายไปเลย แต่สำหรับน่าจะจัดอยู่ในฝั่งที่ค่อนข้างชอบหนังเรื่องนี้ เพราะมันก็คือหนังบู๊

ที่ไม่ฟูมฟายปลอกกระแสสักเท่าไหร่ เป็นหนังที่มีชีวิตจิตใจ มีแนวคิด และความเป็นมนุษย์ที่ก่ำกึ้งอยู่บนความไร้ศีลธรรมค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว”สาเหตุและผลที่ตามมาของการแพร่ระบาดของฝิ่นในอเมริกาได้รับการเปิดเผยในละครเรื่องนี้ติดตามผู้กระทำผิด เหยื่อ และผู้สืบสวนที่แสวงหาความจริง”

เรื่องย่ออย่างเป็นทางการของ Netflix”PAINKILLER เป็นซีรีส์ลิมิเต็ดที่มีสคริปต์ในการบอกเล่าเหตุการณ์สมมติขึ้น ซึ่งสำรวจต้นกำเนิดและผลพวงของวิกฤตฝิ่นในอเมริกา โดยเน้นเรื่องราวของผู้กระทำผิด เหยื่อ และผู้แสวงหาความจริง ซึ่งชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลด้วยการประดิษฐ์ OxyContin การตรวจสอบอาชญากรรม ความรับผิดชอบ และระบบที่ทำให้

ชาวอเมริกันหลายแสนคนล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า PAINKILLER

อิงจากหนังสือ PAIN KILLER โดย Barry Meier และบทความในนิตยสาร New Yorker เรื่อง ‘The Family That Built an Empire of Pain’ โดย Patrick Radden Keefe อำนวยการสร้างโดย Eric Newman, Painkiller (2023) Pete Berg, Alex Gibney และนักวิ่ง/ผู้สร้าง Micah Fitzerman-Blue และ Noah Harpster นำแสดงโดย Uzo Aduba, Matthew Broderick,

Taylor Kitsch, Dina Shihabi และ West Duchovny”เรื่องย่ออย่างเป็นทางการของ Netflix”The causes and consequences of America’s opioid epidemic unfold in this drama following its perpetrators, victims and an investigator seeking the truth.”Official Netflix synopsis
“A fictionalized retelling of events, PAINKILLER is a scripted

limited series that explores some of the origins and aftermath of the opioid crisis in America, highlighting the stories of the perpetrators, victims, and truth-seekers whose lives are forever altered by the invention of OxyContin.

An examination of crime, accountability, and the systems that have

repeatedly failed hundreds of thousands of Americans, PAINKILLER is based on the book PAIN KILLER by Barry Meier and the New Yorker Magazine article ‘The Family That Built an Painkiller (2023) Empire of Pain’ by Patrick Radden Keefe. Executive produced by Eric Newman, Pete Berg, Alex Gibney, and showrunners/creators Micah Fitzerman-Blue & Noah Harpster.

Starring Uzo Aduba, Matthew Broderick, Taylor Kitsch, Dina Shihabi, and West Duchovny.”Official Netflix synopsisIm dismayed at the nothingness of this documentary

Ostensibly, this is a hol’atta nuttin boiga EXCEPT a lovely video that could shown

to prospective jurors (and future criminals) on the sciences they need to (or should) understand when hearing a case – – I’m only gonna address the first episode here but post it to the show rating cause I have seen it, however my

issues are inherent throughout – and though I don’t fault a Feebee for being poor Painkiller (2023) at public speaking but the special agent in charge of task force two, well… I hole his investigative prowess exceeds his

command of the spoken word – nonetheless it for me it boils down to the lack of anything but methodology

(unrelated to the specific case, oddly enough) and denials of interviews from authorities – frankly it’s a wonder this was completed.

วันนี้ Netflix ประกาศเปิดตัวลิมิเต็ดซีรีส์ดราม่าเรื่องใหม่ “Painkiller” ว่าด้วยจุดเริ่มต้นของวิกฤตสารเสพติดกลุ่มโอปิออยด์
เอริค นิวแมน (จาก “พลิกวิกฤต ขีดชะตาโลก (Children of Men)”) รับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างในข้อตกลงร่วมผลิตผลงานกับ Netflix ที่เขาเคยฝากผลงานไว้ทั้ง “นาร์โคส (Narcos)” และ “นาร์โคส: เม็กซิโก (Narcos: Mexico)”

คู่หูมือเขียนบทผู้เข้าชิงรางวัลเอมมี่ ไมกาห์ ฟิตเซอร์แมน-บลูและโนอาห์ ฮาร์ปสเตอร์ (จาก A Beautiful Day In The Neighborhood” “Transparent”)

จะรับหน้าที่ทั้งผู้เขียนบท ผู้จัด และผู้อำนวยการสร้างผู้คว้ารางวัลออสการ์และรางวัลเอมมี่ อเล็กซ์ กิบนีย์

(จาก เปิดเรื่องจริง: ไซแอนโทโลจีและพันธนาการแห่งความเชื่อ (Going Clear: Scientology and the Prison of Belief)” “Enron: The Smartest Guys In the Room”) จะมารับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้าง
แพทริค แรดเดน คีฟ (จาก “เดอร์ตี้ มันนี่ (Dirty Money)”) ดูหนังออนไลน์  ผู้เขียนบทความ

“The Family That Built An Empire of Pain” Painkiller (2023) ของ New Yorker และแบร์รี ไมเออร์ นักข่าวผู้คว้ารางวัลพูลิตเซอร์และผู้เขียนหนังสือสั่นสะเทือนวงการเรื่อง “Pain Killer: An Empire of Deceit and the Origin of America’s Opioid Epidemic” จะร่วมเป็นที่ปรึกษาให้เรื่อง

“Painkiller” ซึ่งผลงานระดับมาสเตอร์พีซของทั้งสองคือข้อมูลสำคัญสำหรับซีรีส์เรื่องนี้

ผู้คว้ารางวัลเอมมี่สาขากีฬา ปีเตอร์ เบิร์ก (จาก “เดอะ เลฟต์โอเวอร์ส (The Leftovers)” “

เส้นทางสู่ฝัน วันแห่งชัยชนะ (Friday Night Lights)”) จะทำหน้าที่กำกับลิมิเต็ดซีรีส์เรื่องนี้ทั้ง 8 ตอนบทสัมภาษณ์เอริค นิวแมน: “วิกฤตยาเสพติดกลุ่มโอปิออยด์คือโศกนาฏกรรมในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขที่ส่งผลเสียหายมากเป็น

ประวัติการณ์ มันต่างจากการระบาดของยาเสพติดชนิดอื่นซึ่งเกิดจากขบวนการผลิตใต้ดินและลักลอบลำเลียง แต่การแพร่ระบาดของยาประเภทนี้เริ่มจากการจ่ายยาตามใบสั่งยาของแพทย์ ซึ่งได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานรัฐบาล และส่งเสริมโดยบริษัทเวชภัณฑ์

ยักษ์ใหญ่ที่ครอบครัวหนึ่งเป็นเจ้าของ โดยทำรายได้นับพันๆ ล้านจากการทรยศความไว้วางใจของผู้ป่วย

และสาธารณชน ผมขอขอบคุณไมกาห์ โนอาห์ และอเล็กซ์ที่ทำให้ผมได้ทราบเรื่องราวพวกนี้ การเล่าเรื่องของโนอาห์และไมกาห์ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรนั้นทั้งน่ากลัวและน่าสลดใจ โดยจะอิงจากการรายงานข่าวที่น่าสนใจยิ่งของแพทริค แรดเดน คีฟและแบร์รี ไมเออร์ ผมเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับอเล็กซ์ กิบนีย์ผู้ยิ่งใหญ่และตื่นเต้นสุดๆ ที่จะได้ปีเตอร์ เบิร์กมาเป็นผู้กำกับ”

บทสัมภาษณ์ปีเตอร์ เบิร์ก: “ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการเจาะลึกถึงต้นกำเนิดของความผิดเพี้ยนในการใช้สารโอปิออยด์ บริษัทที่ทำกำไรจากความตายและการเสพติดสำหรับผมแล้ว Painkiller (2023) ก็ต้องยอมรับให้ได้เมื่อถึงคราวที่เราชี้แจงความจริงให้กระจ่างว่าว่าเขา

ดำเนินธุรกิจตัวเองกันยังไง”บทสัมภาษณ์ซินดี้ ฮอลแลนด์ รองประธานกรรมการฝ่ายเนื้อหาของ Netflix: “เอริค นิวแมนบันทึกเหตุการณ์การค้ายาไว้

อย่างยอดเยี่ยมมาหลายปี และตอนนี้ฉันก็ตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นเขาผนึกกำลังกับยอดฝีมืออย่างอเล็กซ์ กิบนีย์, ไมกาห์ ฟิตเซอร์แมน-บลู และโนอาห์ ฮาร์ปสเตอร์ในการขยายมุมมองให้เห็นภาพรวมการแพร่ระบาดของสารเสพติดประเภทโอปิออยด์มากยิ่งขึ้น และเมื่อผนวกกับฝีมือการกำกับของปีเตอร์ เบิร์กแล้ว “Painkiller” จะต้องเป็นการเจาะลึกเบื้องหลังพาดหัวข่าวโศกนาฏกรรมในขณะที่เกิดเรื่องขึ้น”