เสียง : พากย์ไทย

6.1/10

King Naresuan 3 (2011) ตํานานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 : ยุทธนาวี

King Naresuan 3 (2011) ตํานานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 : ยุทธนาวี ในปีพุทธศักราช 2127 การประกาศเอกราชที่เมืองแครง ทำให้พระเจ้านันทบุเรงแห่งพม่าเกิดความประหวั่นพรั่นพรึงว่า อยุธยาในฐานะประเทศราชในขณะนั้นทำการเยี่ยงนี้อาจเป็นชนวนให้ประเทศราชอื่นๆ ตั้งตัวกระด้างกระเดื่องตาม แต่ด้วยติดศึกอังวะ จึงส่งเพียงพระยาพะสิมและพระเจ้าเชียงใหม่เข้าประชิดกรุงศรีอยุธยา ขณะเดียวกัน เจ้ากรุงละแวกทางตะวันออกของอยุธยา ได้ทราบกิตติศัพท์ของสมเด็จพระนเรศวร

จึงส่งพระศรีสุพรรณราชาธิราชผู้อนุชามาช่วยทำศึกกับพม่าด้วย พระนเรศวรและกองทัพของพระองค์ได้วางแผนในการแยกสายเข้าตีทัพของพม่านั้นโดย แข่งกับเวลา หากช้าไปอยุธยาอาจแตกพ่ายก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังมีศึกรักระหว่างรบของคนสี่คน คือ พระราชมนู เลอขิ่น เสือหาญฟ้า และรัตนาวดี รวมถึงสถานะของพระสุพรรณกัลยาที่อาจต้องเป็นบาทบริจาริกาของพระเจ้านันทบุเรง ผู้ราชบุตรแห่งพระเจ้าบุเรงนองอดีตสวามีอีกด้วย

King Naresuan 3 (2011) ตํานานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 : ยุทธนาวี

ก็หายไปนานถึง 4 ปีด้วยกันเลยนะครับกับภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ซึ่งตอนที่เป็นภาค 1 องค์ประกันหงสา และภาค 2 ตอน ประกาศอิสรภาพ เข้าฉายก็ทำรายได้ไปอย่างไม่ลืมหูลืมตาถึงภาคละ200 กว่าล้านบาท ตอนนั้น “ท่านมุ้ย” ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ประกาศว่า ภาค 3 จะออกฉายในปีเดียกวัน (2007) แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่ออกฉายเสียที เลื่อนแล้วเลื่อนอีกเพราะว่าถ่ายทำกันไม่ทัน

ในปีนี้ 2011 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชถ่ายทำเสร็จแล้ว แต่อาจจะเป็นเพราะยังมีรายละเอียดอีกเยอะ จึงทำให้ไม่ สามารถฉายเป็นภาคเดียวอย่างที่เคยประกาศไว้ได้ ก็เลยต้องแบ่งออกเป็น ภาค 3 และ ภาค 4 โดยในภาค3 ที่จะฉายก่อนนี้มีชื่อตอนว่า “ยุทธนาวี” กำหนดฉายปลายเดือนมีนาคม ส่วนในภาค 4 นั้นชื่อตอนว่า “ยุทธหัตถี” กำหนดฉายปลายเดือนเมษายน เราก็มาดูอีกทีซิว่า มันจะจริงตามนั้นหรือเปล่า พูดถึงผู้กำกับอย่างท่านมุ้ย หรือ หม่อมเจ้าชาตรี เฉลิมยุคล ยอมรับว่า ท่านเป็นคนที่ละเอียดละออมาก

ถ่ายทำแต่ละคัด เมื่อมาถ่ายทำต่อเมื่อไหร่ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเหมือนเดิมแป๊ะ จะต้องมีทีมงามมาคอยมาคไว้ตลอดเวลา ผมเคยดูการทำงานของท่านอย่างใกล้ชิดมาแล้วสมัยที่ท่านทำเรื่อง “ครูสมศรี” เพราะว่าเรื่องนี้คุณยายผมกับน้องชายผมได้เล่นด้วย ก็เลยรู้ว่าท่านเป็นคนที่ มีระเบียบมาก แต่ที่น่ารักสุดๆ ก็ตรงที่ท่านเป็นกันเองกับทุกคนไม่ถือตัวเลยครับ

• สำหรับเรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 3 ตอน ยุทธนาวี นี้

ท่านประกาศไว้ว่า ได้ลงทุนไปทั้งหมด 940 ล้านบาท โดยงบส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล 376 ล้านบาท โดยรัฐบาลอ้างว่า เพื่อปลูกจิตสำนึกให้คนไทยเกิดความรักชาติ สามัคคี และกระตุ้นให้เกิดความภาคภูมิใจในชาติไทยเราเอง โดยผ่านกระทรวงพาณิชย์ 330 ล้านบาท ส่วนอีก 46 ล้านบาทได้จากกระทรวงวัฒนธรรม

สำหรับในภาคนี้ยังคงให้อารมณ์ร่วมเหมือนกับครั้งที่ดูภาค 2 ใหม่ๆ แต่ในภาคนี้มีศึกสู้รบเยอะกว่าภาค 2 อยู่มากทำให้ทุกฉากทุกตอนที่เรานั่งดูอยู่นั้น ไม่สามารถลุกไปไหนได้เลย ความสนุกของเนื้อเรื่องได้ดึงเราให้ติดกับเก้าอี้นั่งไม่ให้ไปไหน ถึงแม้จะมีฉากดราม่าเข้ามาผสมบางช่วงบางตอน ก็ไม่ทำให้น่าเบื่อ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะอุปกรณ์ประกอบฉากที่มีมากมายเหลือเกิน รวมทั้งแต่ละฉากก็อลังการมาก

ฉากสู้รบบางช่วงมีภาพสยดสยองอย่างเช่นหัวขาด หรือคนที่โดนเผาทั้งเป็น ถือเป็นฉากอันตรายสำหรับเด็กเล็ก แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้ในสงครามทุกๆ ที่ไป เพราะฉะนั้นผู้ปกครองที่พาเด็กเล็กเข้าไปควรแนะนำด้วย จะขอติติงสักนิดเกี่ยวกับเรือสำเภาจีน แม้ว่าฉากต่อสู้จะดูตื่นเต้นแต่ว่า ในส่วนของตัวเรือดูใหม่เหลือเกิน(รู้ว่า เพิ่งสร้างเสร็จมาใหม่ๆเพื่อเข้าฉากนี้) ดูแล้วมันไม่คลาสสิกเหมือนดูเรือรบ ในเรื่อง 3 ก๊ก เรือนั้นถึงเข้าจะสร้างใหม่ขึ้นมาเหมือนกัน

แต่ดูแล้วเก่า เหมือนผ่านสนามรบมาแล้วหลายครั้งดูคลาสสิกดี ส่วนเรือสำเภาจีนในเรื่องนี้ ยิงตูมตามกันยักไงก็ไม่โดนเรือเลยสักแอะ โดยเฉพาะพายที่อยู่ด้านล่างอย่างเดียว (ส่งสัยต้องเซฟเรือไว้เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ชมในโรงถ่ายเป็นแน่) อีกช่วงหนึ่ง ผมไม่ได้ดูถูกพระปรีชาสามารถของพระนเรศนะครับ ตอนศึกทุ่งบางแก้ว ทหารพม่าราวแปดหมื่น แต่ทหารไทยที่ไปล่อหลอกไม่น่าจะถึง 50 คนด้วยซ้ำ (หรือว่าจริงๆ แล้วมากกว่านั้นแต่ในหนังเอาแค่นี้ก็พอ) แต่ทหารพม่าดันเชื่อไล่ตามมา อันนี้มันจริงหรือนี่

ในฉากที่จะทำให้เห็นถึงความสูญเสีย ความเศร้า หน้าสลดใจ ที่มีผู้คนต้องตายมากมายกลับใช้ตัวละคร คอม ชวนชื่น เป็นตัวเดินเรื่อง น้าค่อมแค่เห็นหน้าก็ตลกแล้ว แล้วดันมีศพตกลงมาทำให้น้าค่อมต้องวิ่งแบบ ถ้าเป็นชาวบ้านก็ต้องเรียกว่า หางจุกตูด ฉากนี้ก็เลยดูเป็นขำไปเลย ไม่ได้เศร้า หรือสลด อย่างที่ต้องการจะสื่อไว้ ในด้านการแสดงผมไม่รู้จะพูดถึงใครดี เพราะว่านักแสดงมีมากเหลือเกิน

และแต่ละคนก็แสดงได้ดีทั้งนั้น ผมเชื่อแล้วว่า ท่านมุ้ยคัดนักแสดงได้อย่างยอดเยียมมาก นักแสดงทุกคนตั้งใจแสดงเป็นอย่างมาก บางครั้งนักแสดงบางท่านก็มีฉากออกอยู่ไม่กี่ฉากเท่านั้น แต่ก็แสดงได้ดีสุดๆ เลยครับ แค่ได้ดูฉากสู้รบอย่างศึกทุ่งบางแก้ว และฉากรบกับสำเภาจีน แค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ ฉากอื่นๆ ไม่ต้องพูดถึง คุ้มสุดคุ้มครับ กับการนั่งดูเกือบ 3 ชั่วโมง

• สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ไปดูกันเถอะครับ

เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ชื่อว่า เป็นภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นภาพยนตร์ที่ใช้ทุนในการสร้างสูงสุดของไทย และทำรายได้แบบถล่มทลาย เป็นภาพยนตร์ที่ระดมนักแสดงมากที่สุด ใช้ทีมงานเยอะที่สุด และฉากยิ่งใหญ่อลังการเยอะที่สุด

และความยิ่งใหญ่อลังการของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นการฏิวัติวงการภาพยนตร์ไทย เพียงแค่นี้คุณจะพลาดเรื่องนี้ได้เหรอครับ และก่อนที่เราจะได้ไปดู ภาค 4 ต่อ ในอีก 1 เดือนข้างหน้า ก็ขอฝากคำคมในเรื่องนี้ไว้ตรงนี้ก็แล้วกันนะครับ “อิสรภาพยากยิ่ง จะชิงคืนมา แต่ยิ่งยากกว่า หากจะรักษาไว้”

disappeared for 4 years together with the historical movie “The Legend of King Naresuan the Great” which was part 1, the Hongsa hostages, and part 2, the declaration of independence. When it was released, it made an unforgettable income of over 200 million baht per part. King Naresuan 3 At that time, “Than Mui”, the film’s director, announced that part 3 would be released in the same year (2007), but until then, The story was never released. It was postponed and postponed again because filming couldn’t take place in time.

This year, 2011, The Legend of King Naresuan the Great was finished filming. But this may be because there are still many details, making it unable to be released as a single part as previously announced. So it had to be divided into Part 3 and Part 4. In Part 3, which will be shown first, there is an episode called “Yuthnawi” scheduled to be shown at the end of March. As for Part 4, the episode is called “Yuthheete” scheduled to be shown at the end of April. King Naresuan 3 Let’s take a look again. Will it be true or not? Talking about directors like Than Mui or Momchao Chatri Chalermyukol, I admit that he is a very meticulous person.

Filming each selection When filming resumes, everything will be exactly the same. There must be a beautiful team waiting for Mark at all times. I have watched his work closely before when he worked on “Teacher Somsri” because in this story my grandmother and my brother got to play together. So I know that he is a very organized person, but extremely cute. It’s just that he is friendly with everyone and doesn’t hold himself at all.

• For this story: The Legend of King Naresuan Part 3, Episode Battle of the Navy.

He announced that A total of 940 million baht has been invested, with part of the budget receiving support from the government of 376 million baht. The government claims that To instill awareness among Thai people of patriotism, unity and stimulate pride in our own Thai nation. doomovie.win 330 million baht went through the Ministry of Commerce, while another 46 million baht came from the Ministry of Culture.

For this part, there is still the same emotional feeling as when we watched Part 2 anew, but in this part there are a lot more battles than in Part 2, making every scene and every episode that we sit and watch. Can’t get up and go anywhere. King Naresuan 3 The fun of the story keeps us glued to our seats and unable to go anywhere. Even though there are some dramatic scenes mixed in at some moments. It doesn’t make it boring. Part of this may be due to the abundance of props. Including each scene is very spectacular.

Some battle scenes feature gruesome imagery such as severed heads. or people who were burned alive It is considered a dangerous scene for young children. But it is a reality that can happen in wars everywhere, so parents taking young children should be advised accordingly. I would like to criticize a little bit about the Chinese junk. Even though the fight scenes are exciting, As for the boat itself, it looks very new (I know that It was just recently built for this scene.) Looking at it, it’s not as classic as looking at the battleship in the Three Kingdoms story. King Naresuan 3 That’s why the ship had to be rebuilt as well.

But it looks old. It’s like you’ve been through the battlefield many times. It looks classic. As for the Chinese junk in this story No matter how much they shot, they didn’t hit any ships. Especially the pie that’s just at the bottom. (It is doubtful that the boat must be saved so that those who are interested can see it in the studio.) King Naresuan 3 Another moment, I do not disrespect the King Nares’ ability. During the Battle of Thung Bang Kaeo About eighty thousand Burmese soldiers But the Thai soldiers who tricked them should not even have been 50 people (or really and more than that, but in the movie this is enough) But the Burmese soldiers believed and pursued them. Is this true?

In the scene that will show the loss, sadness, sad face, where many people have died, the character Kom Chuan Chuen is used to walk the story. Auntie Kom’s face makes me laugh just by seeing it. Then a corpse fell causing Uncle Kom to have to run. If it were a villager, it would be called “Hang Juk Butt”, so this scene looked like a joke, not sad or sad like I wanted to convey. In terms of acting, I don’t know who to talk about. Because there are so many actors.

And each of them acted well. I believe that Than Mui has chosen the actors very well. Every actor is very committed to their performance. Sometimes some actors only have a few scenes. But he acted extremely well. Just watching the battle scenes like the Battle of Thung Bang Kaeo. and the battle scene with the Chinese junk This alone is worth it. King Naresuan 3 Other scenes are not worth mentioning. Very worthwhile. with sitting and watching for almost 3 hours

• for this film Let’s go see.

Because this movie is called It is the greatest movie in Thai history. It is the film that cost the most money to make in Thailand. and making a huge income It is the film that mobilizes the most actors. Use as many teams as possible. and the most magnificent scenes

And the grandeur of this film was the beginning of a revolution in the Thai film industry. Just now, can you miss this story? And before we get to see part 4 in the next 1 month. King Naresuan 3 I would like to leave a quote on this matter here. “Freedom is very difficult to get back, but it is even more difficult. If you want to keep it.”