เรื่องล่าสุด
71 Into The Fire (2010) สมรภูมิไฟล้างแผ่นดิน
71 Into The Fire (2010) สมรภูมิไฟล้างแผ่นดิน
71 Into The Fire (2010) สมรภูมิไฟล้างแผ่นดิน เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเดือนสิงหาคม 2493 เกี่ยวกับการต่อสู้ในสงครามเกาหลีที่กุมชะตากรรมของเกาหลีใต้ โดยเพื่อป้องกันไม่ให้ทหารเกาหลีเหนือรุกล้ำเข้าสู่เมืองพูซาน ส่งผลให้นักศึกษาจำนวน 71 คนร่วมกันอาสาสมัครหยิบปืนเพื่อต่อสู้กับทหารเกาหลีเหนือที่บริเวณแนวเส้น แม่น้ำนักดง ผ่านการเล่าเรื่องวีรกรรมของนักสู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเสียสละยิ่งใหญ่ โดยสร้างจากเรื่องจริงจากหน้าประวัติศาสตร์เกาหลี
71 Into The Fire เป็นภาพยนตร์ดราม่าการรบของประเทศเกาหลีใต้ปี 2010
ควบคุมโดย John H. Lee และก็แสดงนำโดย Cha Seung-won, Kwon Sang-woo, Choi Seunghyun (T.O.P) รวมทั้ง Kim Seung-woo ภาพยนตร์หัวข้อนี้ผลิตขึ้นเพื่อนึกถึงคนที่ต่อสู้ในตอนการสู้รบประเทศเกาหลี ภาพยนตร์ประเด็นนี้ผลิตขึ้นจากข้อเท็จจริงของกรุ๊ปผู้เรียนทหารสมัครใจฝึกฝนแล้วก็ติดอาวุธปริมาณ 71 นายที่ได้รับการฝึกซ้อมรวมทั้งติดอาวุธน้อยกว่าของประเทศเกาหลีใต้ในตอนการทำศึกประเทศเกาหลี
ซึ่งโดยมากถูกฆ่าช่วงวันที่ 11 ส.ค. พุทธศักราช 2493 ระหว่างการรบที่ P’ohang-dong พวกเขาป้องกันโรงเรียนมัธยมศึกษาต้นของเด็กผู้หญิง P’ohang ในพื้นที่ตรงเวลา 11 ชั่วโมง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับในการป้องกันละแวกใกล้เคียงแม่น้ำนักดองที่กำลังดิ้นรนจากการเช็ดกจู่โจมโดยกองกำลังประเทศเกาหลีเหนือที่ครอบครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยที่ 766 ที่น่ากลัว
-
เด็กนักเรียนชาวประเทศเกาหลีใต้ Oh Jang-beom
เป็นทหารสมัครใจสำหรับการทำสงครามด้านใน Yeongdeok, Gyeongsang เหนือในตอนการรบประเทศเกาหลี ช่วงเวลาที่เมืองถูกล่วงล้ำโดยหน่วยที่ 766 ของกองพลที่ 5 ของกองกองทัพราษฎรประเทศเกาหลี เขาถูกดึงเข้าไปในกองทหารประเทศเกาหลีใต้ที่นำโดยร้อยโทคิม จุน-ซอบที่เพียรพยายามหลบซ่อน อย่างไรก็แล้วแต่ ท้ายที่สุดหน่วยก็ถูกตัดเหลือแค่ ร้อยโทคิม แล้วก็จางบอมเพียงแค่นั้น
ขณะเดียวกันนั้นชาวประเทศเกาหลีเหนือก็ยิงแล้วก็ดาบปลายปืนผู้หมวด Jang-beom เพราะไม่มีประสบการณ์แล้วก็ความกลัวก็เลยไม่อาจจะช่วยเขาได้ พวกเขาถูกเจอโดยชาวประเทศเกาหลีใต้คนอื่นรวมทั้งเกือบจะมิได้ขึ้นรถบรรทุกคันในที่สุดออกมาจากเมืองไปยังโรงหมอใน Pohang ที่ซึ่ง ร้อยโท คิม เสียชีวิตโดยมี Jang-beom ที่รู้สึกไม่ถูกอยู่ใกล้เคียงเขา
กัปตันคังสั่งให้จางบอมเป็นหัวหน้ากองกำลังอาสาสมัครนิสิตที่เพิ่งจะได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชูใหม่ เพราะเขาเป็นเยี่ยมในสามอาสาสมัครที่มีประสบการณ์การต่อสู้ หน่วยนี้ร่วมโดยผู้กระทำผิดกฎหมายชายหนุ่มสามผู้ที่นำโดยข้ากัปโจ ซึ่งท้าคำบัญชาของจังบอม แล้วก็ได้ทำลายแหล่งของกินของผู้เรียนโดยไม่ได้ตั้งใจ ถัดมาขณะเที่ยวตรวจ พวกเขาถูกจู่โจมโดยมือสังหาร KPA ซึ่งนำพวกเขาไปสู่การซุ่มจู่โจม เด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บรุนแรงก่อนจะปลีกตัวจากกัน
ขวัญแรงใจของเด็กนักเรียนพังทลายลงจากการเผชิญหน้าครั้งเลวคราวนี้ เหล่าเด็กนักเรียนโทรเรียกกัปตันคังเพื่อขอร้อง แม้กระนั้นกองกำลังปฏิบัติงานถูกตรึงอยู่ที่แม่น้ำนักป่าดง คังขอให้หัวหน้าช่วยเหลือผู้เรียน แต่ว่าพวกเขาไม่ยอมรับที่จะหันเหทรัพยากรไปจากแนวรบปูซานที่สำคัญ แม้กระนั้น พวกเขายอมคังไป แล้วก็เขาก็เก็บรวบรวมยานพาหนะรวมทั้งทหารประเทศเกาหลีใต้ปริมาณน้อยเพื่อบำบัดความทุกข์ที่สถานศึกษา
ดาลยัง หนึ่งในเด็กนักเรียน-ทหาร ถูกหน่วยที่ 766 จับไป รวมทั้งถูกพันตรีปาร์ค มูรังไต่สวน มูรังเห็นใจเด็กนักเรียนแล้วก็สั่งให้เขากลับไปสถานศึกษาและก็ไปตรงนั้นเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของเด็กนักเรียน ตรงนั้น เขาบอกกับจางบอมว่าเขารวมทั้งคนของเขาจะยึดสถานศึกษาข้างใน 2 ชั่วโมง แล้วก็เสนอที่จะเว้นชีวิตผู้รักษาแม้พวกเขายอมแพ้ กัปโจเอาชนะดัลยังและก็ต่อสู้กับจางบอมก่อนที่จะหนีไปกับสหายชางอูเพื่อมุ่งหน้าไปสู่ปูซาน ภายหลังเริ่มเดินทางได้ไม่นาน ทั้งคู่ก็เจอกับรถบรรทุกของประเทศเกาหลีเหนือที่เต็มไปด้วยข้าวของและก็อาวุธ ติดอยู่บนถนนหนทาง
เด็กนักเรียนที่เหลือจัดแจงคุ้มครองปกป้องสถานศึกษาโดยไม่ชักธงขาวแม้กระนั้นเป็นธงชาติประเทศเกาหลีใต้ ในเวลาที่เมเจอร์ปาร์ควางแผนจู่โจมด้วยตัวเอง เมื่อการจู่โจมเริ่มขึ้น ผู้เรียนสามารถทำความเสียหายให้กับชาวประเทศเกาหลีเหนือได้ แม้กระนั้นท้ายที่สุดก็ถูกบังคับให้ย้อนกลับ ขณะเดียวกันนั้น รถบรรทุกเสบียงกรังของประเทศเกาหลีเหนือก็แผดเสียงขู่คำรามเข้ามาโดยขับโดย Chang-wu รวมทั้ง Kap-jo ขับเคลื่อนผ่านชาวประเทศเกาหลีเหนือ หยุดการจู่โจมพร้อมกับนำเอาอาวุธหนักอันมีค่ามาให้เด็กนักเรียน
-
ภายใต้การปิดบังของรถถัง คนของหน่วย 766
ไปถึงตึกเรียนแล้วก็ฆ่าผู้เรียนโดยมากไป จางบอมแล้วก็กั๊บโจต่อสู้ฝ่าพวกประเทศเกาหลีเหนือในตึกไปจนกระทั่งหลังคาของตึก ซึ่งผู้อื่นจัดตั้งปืนกล บนหลังคาบ้าน จางบอมและก็กัปโจอุตสาหะควบคุมชาวประเทศเกาหลีเหนือ ช่วงเวลาที่จางบอมรวมทั้งกั๊บโจกระสุนหมด กัปตันคังรวมทั้งชาวประเทศเกาหลีใต้ก็มาถึง พวกเขาทำลายรถถังของประเทศเกาหลีเหนือรวมทั้งเอาชนะทหารบกของประเทศเกาหลีเหนืออย่างสม่ำเสมอในรอบๆสถานศึกษา
บนหลังคา เวลาที่จางบอมล้มลงเนื่องจากว่าความอ่อนแรงล้าแล้วก็รอยแผล เมเจอร์ปาร์คก็มาถึงแล้วก็ฆ่าแคปโจ ขณะที่ปาร์คพอใจ จางบอมก็ใส่ปืนไรเฟิลของเขาอย่างเงียบๆรวมทั้งยิงปาร์ค เหมือนกับที่ปาร์คก็ยิงเขาด้วย ถัดมาผู้พันถูกกัปตันคังฆ่า จางบอมเสียชีวิตจากรอยแผลเวลาที่คังปลอบโยนเขา
โดยกล่าวมาว่าในบรรดาผู้เรียน 71 คน มี 48 คนตายเพื่อคุ้มครองสถานที่เรียน ภาพยนตร์สิ้นสุดลงด้วยภาพย้อนอดีต โดยช่างถายภาพของกองกองทัพบกถ่ายรูปกรุ๊ปผู้เรียน-ทหารก่อนที่จะกองทหารปฏิบัติงานจะเริ่มเดินทางไปปูซาน และก็เด็กนักเรียน-ทหารที่เคยออกรบที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งขณะนี้แก่แล้ว ใคร่ครวญถึงประสบการณ์ของพวกเขา
บรรดาคนชอบดูหนังแอคชั่นการศึกลุกขึ้นยืนนั่งและก็เขียนบันทึก เหตุเพราะ 71 Into The Fire ควรจะเขียนลงในหนังสือของคุณว่าเป็นสิ่งที่จำต้องมองถ้าเกิดคุณยังมิได้คิดแผนที่จะทำแบบนั้น Saving Private Ryan ของสตีเว่น สปีลเบิร์กอาจตั้งมาตรฐานรวมทั้งเพิ่มความคาดหมายเมื่อหลายปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับการเลือกใช้สีที่เคร่งเคลียดรวมทั้งความร้ายแรงในการทำศึกที่เหมือนจริงที่แสดงบนจอ แล้วก็ในตอนไม่กี่ปีที่ล่วงเลยไป
แม้กระทั้งจีนก็มีส่วนร่วมสำหรับการแสดงผ่าน The Assembly ของเฟิง เกลอกังด้วย ถึงแม้ว่าเรื่องราวเกี่ยวกับความกล้าหาญในตอนสงครามโลกครั้งที่สองจะได้รับการจัดสร้างขึ้นเยอะมากโดยผู้ผลิตภาพยนตร์จากตะวันตก แต่ว่าฉันคิดได้เพียงแต่ไม่กี่เรื่องแค่นั้นที่ทำในภาคทิศตะวันออกเพื่อบรรลุถึงกับขนาดนั้น นี่เป็นหนึ่งในนั้น กำกับการแสดงโดยจอห์น เอช. ลี รายงานเบื้องต้นของภาพยนตร์หัวข้อนี้มาจากจดหมายจากหนึ่งในทหารนิสิตชาวประเทศเกาหลีใต้ที่เสียชีวิต 71 นาย
-
ซึ่งบันทึกประสบการณ์และก็ขณะของอลาโมในฐานะทหาร
เพียงแค่ไม่กี่ผู้ที่จำต้องยืนหยัดต่อสู้กับมวลชนชาวประเทศเกาหลีเหนือที่รุกรานใน มาตรการของดาวิดและก็โกลิอัทอย่างมาก ได้รับมอบหมายให้คุ้มครองโปฮังที่มีความหมายทางที่มีความสำคัญในการรบ ในช่วงเวลาที่ที่เหลือของกองกองทัพประเทศเกาหลีใต้รวมทั้งผู้ช่วยเหลือของยูเอ็นคุ้มครองป้องกันพื้นที่แม่น้ำนักดอง นี่ไม่ใช่ 300 ที่ซึ่งกรุ๊ปทหารที่หนักแน่นสำหรับในการต่อสู้ซึ่งนำโดยกษัตริย์ลีโอนิดิสประจันหน้ากองทัพอิหร่านขนาดใหญ่อย่างน่าเศร้าใจ แต่ว่ากรุ๊ปผู้เรียนขี้ตืดที่มีประสบการณ์ทางการทหารเพียงนิดหน่อยได้รับคำบัญชาให้ยืนหยัดต่อสู้กับกองทัพมือโปรที่ลุ่มหลงตรงเวลา 2 ชั่วโมงก่อนที่จะกำลังเสริมจะมาถึง
คุณจะรู้สึกได้ถึงความรีบเร่งรวมทั้งความหดหู่ตลอดทั้งเรื่อง ตอนที่ลีไม่ลืมเลือนที่จะเตือนคุณว่าเหตุการณ์ทรามเท่าใด โดยการสูญเสียดินแดนครั้งใหญ่ในตอนสี่เดือนให้กับกองกำลังประเทศเกาหลีเหนือที่บุกจู่โจมด้านใต้ รวมทั้งการพึ่งพิงของเด็กนักเรียนสำหรับเพื่อการจับอาวุธในสิ่งที่บางทีอาจเป็นชั้นเชิงที่น้อยกว่าความทารุณไร้มนุษยธรรมสองประการ แนวร่วมยูเอ็นมีขอบเขตจำกัด รวมทั้งกัปตันชั่วครั้งชั่วคราวของกรุ๊ปนิสิตโมโหง่ายที่พูดจานุ่มนวล
โอจุงบประมาณอม (ท็อป) เติบโตขึ้นมาอย่างเป็นจริงเป็นจังถ้าเกิดเขาจะเป็นหัวหน้าผู้เรียน โดยยอดเยี่ยมในสามผู้ที่มี ประสบการณ์การต่อสู้ กระบวนการทำสิ่งที่ยากเป็นการรวมตัวของผู้ร้ายอย่างแคปโจ (ควอนซังวู) ที่แฮปปี้ที่ได้ออกมาจากตารางเพื่อทุ่มเทให้กับการต่อสู้ แม้กระนั้นเหมือนกับกองทัพอื่นๆที่ควรจะมีระเบียบ นี่เป็นชายหนึ่งคนและก็ทหารหมวดสองคนของเขา ที่ถูกใจตรงกันข้าม
ตั้งแต่เริ่ม คุณจะได้โจนไปสู่การต่อสู้ด้วยการยิงปืนที่ดังแล้วก็เกือบทุกอย่างที่ระเบิดบนจอจากปืนใหญ่รวมทั้งปืนใหญ่อื่นๆระหว่างที่ Jung-Bum เดินไปบริเวณกองพันของเขาเพื่อทำธุระต่างๆเป็นต้นว่า เพิ่มเติมเงินและก็จัดส่งแมกกาซีนรวมทั้งลูกปืน ถึงทหาร เพียงแค่เพื่อจะพบว่ากองกำลังข้างของเขาถอนทัพกลับอยู่เสมอเวลา และก็ติดอยู่ในเหตุการณ์ความเป็นความตาย เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่วีรบุรุษที่เขารู้สึกว่าเป็นไปได้ เร็วนี้ๆเขาก็ถูกส่งตัวไปใส่ในรถบรรทุกรวมทั้งอีกรอบด้านเหนือภายใต้การนำของผู้บังคับบัญชาปาร์คมูรัง (ชาซึงวอน) มีชัยชนะรวมทั้งไร้ความปรานีสำหรับการยึดดินแดนเพิ่ม
มีฉากแอ็กชั่นฉากอื่นๆตามมา และก็แต่ละฉากได้รับการผลิตสรรค์อย่างประณีตเพื่อเห็นผลสูงสุดสำหรับผู้ชมภาพยนตร์ ในเวลาที่พวกเราให้กำลังใจทหารเด็กนักเรียนในระหว่างที่พวกเขายืนหยัด แล้วก็พึ่งความฉลาดบนถนนเพื่อสร้างระบบการคุ้มครองบางต้นแบบ เพื่อป้องกันสนามอันเล็กจิ๋วของพวกเขา ถึงแม้ว่าโชคจะมีผลให้พวกเขาได้โอกาสได้เป็นเจ้าของอาวุธที่ถูกทิ้งร้าง
การแสดงด้นสดเป็นการต้อนรับค็อกเทลโมโลโคนฟ (ยังคงเป็นอาวุธที่เหมาะกับการต่อสู้แบบโจร) แล้วก็การประสมประสานระหว่างแก๊ส/เชื้อเพลิงและก็ไฟในลักษณะต่างๆเพราะว่าไม่ใช่นักที่มีความสำคัญในการรบทางด้านการทหาร ผู้เรียนก็เลยรู้สึกไวต่อยุทธวิธีที่ดั้งเดิมที่สุดในหนังสืออย่างการซุ่มจู่โจม รวมทั้งความท้าแต่ละครั้งที่พวกเขาพบเจอก็คือการลดปริมาณที่น่าอนาถอยู่แล้วลง
ครั้งคราวมันบางทีก็อาจจะเป็นความบกพร่องที่ไม่รู้เดียงสาของพวกเขาที่ดึงเอาความร้ายแรงของการสู้รบมาสู่พวกเรา โดยที่ผู้กำกับลีมิได้ยกเว้นเนื้อหาอันนองเลือดของพวกเราเท่าไรนักจากรอยแผลที่ระเบิดรวมทั้งการยิงปืนมายากลจากร่างที่ฉีกจนขาดในระยะใกล้ ตามภาษิตที่ว่า อย่าตายเพื่อประเทศของคุณ แต่ว่าให้ไอ้เลวอีกคนเสียชีวิตเพื่อเขา แต่ ภาพยนตร์ประเด็นนี้สาธยายถึงชาวประเทศเกาหลีที่ฆ่าชาวประเทศเกาหลี
ฉะนั้นในนั้นก็เลยเป็นจังหวะที่จะเอ๋ยถึงความสติไม่ดีว่าเพราะอะไรผู้คนจึงต้องควรฆ่าเพื่อนและก็เพื่อนร่วมชาติของตน ถึงแม้ผู้บังคับบัญชาประเทศเกาหลีเหนือในบางครั้งจะทำให้เห็นว่าเป็นผู้ไม่ใฝ่ใจข้างใดที่เต็มอกเต็มใจต้านทานคำบัญชาการต่อสู้ก็ตาม แม้ว่าจะตอบสนองอนัตตาบอบช้ำของเขาที่ได้รับบาดเจ็บจากผู้เรียนกรุ๊ปหนึ่งจากกองกำลังของเขาเอง
ดราม่าแล้วก็ความเคร่งเครียดก็ไม่มีขาด เกิดขึ้นเมื่อจุงบุมรวมทั้งแคปโจจำเป็นต้องเจอหน้ากันเพื่อได้รับความยำเกรงซึ่งกันและกัน เมื่อก่อนหน้านั้นความสนุกของแก๊งค์อันธพาลพิสูจน์ให้มองเห็นแล้วว่ากำลังวิ่งแข่งกับนิสัยของ ภารกิจของเด็กนักเรียนทหาร สำหรับจุงบุม พวกเราได้มีความคิดเห็นว่าเขาเติบโตจากเด็กชายสู่คนได้เช่นไร ขณะที่แคปโจศึกษาเกี่ยวกับความรับผิดชอบและก็ความหมายของการเช็ดกนับ
ตรงกันข้ามกับความเห็นแก่ได้ของเขาเหตุเพราะปัจจุบันนี้ศัตรูมีอยู่จริงและก็อยู่หน้าประตูบ้านพวกเขาแล้ว โชคร้ายที่ขณะที่ภาพยนตร์ประเด็นนี้มีทหารเด็กนักเรียน 71 นายที่ถูกแบ่งได้เป็นสองหมวด แต่ว่าตามความจริงแล้ว คุณไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำความรู้จักกับทหารทั้งสิ้น ด้วยเหตุดังกล่าว ที่เหลือจะมีเพียงแต่สองคนเพียงแค่นั้นที่เป็นหัวหน้าในการพัฒนาผู้แสดง
สร้างมาอย่างยอดเยี่ยมด้วยค่าการสร้างที่สุดยอดแล้วก็ฉากที่แสดงถึงเหตุการณ์การศึกในตอนการรบประเทศเกาหลี 71: Into the Fire จะรวมอยู่ในหนังสือของฉันในฐานะหนึ่งในหนังสือที่เหมาะสมที่สุดในปีนี้ในจำพวกนี้ ขอเสนอแนะเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองบนหน้าจอใหญ่!
This slick looking and battle charged war film doesn’t stray too far from the well worn war movie path but certainly tells an inspiring and conflict heavy tale from the Korean War. On August 11th 1950, 71 student soldiers held back the marauding North Korean army, holding an important strategic stronghold, to give the South Korean army the tactical advantage. The 71, few of who had seen extensive combat.
were tasked with holding an abandoned all girls school and the surrounding area in Pohang against hundreds of marauding North Korean soldiers until the South could get reinforcements to the region. With little time to weapons train, nerves taking their toll and with so few of them to stand against the fire power of the North Koreans, the 71 Into The Fire in an epic battle of bravery.
Revelling in impressively staged and technically superior war combat, but never shying away from the horrors of such warfare, ‘71: Into the Fire’ shows military conflict in all its horror and glory. While not reaching quite the same superior heights as War epics ‘Assembly’ and ‘Brotherhood’, ‘71: Into the Fire’ is nevertheless a finely made film, telling a stirring story of true bravery that walks a fine line between gritty combat horror and blockbuster entertainment.
On the blockbuster front, the film is very slick (many of the camera movements and compositions are incredibly fluid and beautiful to look at) with a sort of Hollywood gloss meaning there is no doubt the budget is up there on the screen. On the gritty side, the war action and violence is often uncompromising in nature, really showing the bloody nature of battle and how these 71 non-soldiers really suffered to, quite literally, hold the fort.
The film is often a technical marvel in the combat scenes, the viewer thrown straight into it from the get go, to the various skirmishes the students must endure and to the relentless final battle which really doesn’t hold back in pummelling one with visceral war combat.
On the blockbuster influenced side of things again, one can’t help but feel certain aspects have been embellished for dramatic purposes. While the story of the 71 is a fascinating tale of bravery that deserves to be heard, certain parts (such as the antagonistic relationship between the two leads and the full on evil nature of the North Korean general) seem heightened for conflict purposes. The sub plot of the tension between the student put in charge of the 71 (finely played by Choi Seung-Hyun)
and the rebel bad boy who joins the group and doesn’t want to take orders, just comes off as unnecessary and stale: there is enough going on already with the would be platoon learning to fight, trying to survive and enduring intense combat that proceedings don’t really need this extra divergence. However, if this quarrel between the two characters was indeed a true aspect of the situation then I apologize for branding it a dramatic fabrication: it’s just one of the few characteristics of the narrative that comes off as a little forced and needless.
71 Into The Fire is still an impressive and absorbing tale of heroics and war combat, and an interesting look at a group of very brave people put into a frightening and violent situation, and finding the courage to stand up and defend.
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ หนังสงคราม HD ฟรี เรื่อง 71 Into The Fire (2010) สมรภูมิไฟล้างแผ่นดิน หนังประเภท War สงคราม หนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ หนังชนโรง หนังใหม่ หนัง2024 หนังอัพเดทใหม่ทุกวัน DooMovie ดูหนังฟรีระดับโรงภาพยนตร์ เชิญรับชมหนังภาพยนตร์ เรื่องนี้ได้เลย ดูหนังฟรี ดูหนังผ่านมือถือ ผ่านสมาร์ทโฟน แอนดรอย IOS สมาร์ทTV
Tags : 71 Into The Fire 71 Into The Fire สมรภูมิไฟล้างแผ่นดิน สมรภูมิไฟล้างแผ่นดิน